“คนเราเจอกัน ไม่มีคำว่าเรื่องบังเอิญ”

“คนเราเจอกัน ไม่มีคำว่าเรื่องบังเอิญ”

ในโลกนี้มีคนนับล้าน แต่ทำไมเราถึงได้มาพบเจอกัน

“ความบังเอิญ” หากแต่ในทางพุทธศาสนา “ไม่มีคำว่าบังเอิญ” ทุกสิ่งที่เกิดล้วนมีเหตุทั้งสิ้น
และไม่ใช่แค่การพบเจอเนื้อคู่ หากแต่การพบเจอกัน ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว

ญาติ เพื่อน หัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง ครู ลูกศิษย์ สามี ภรรยา

หรือแม้แต่ชู้ ล้วนมี “กรรม” เป็นตัวกำหนด

ให้แต่ละชีวิตได้มีส่วนมาเชื่อมโยง พบเจอ เป็นมิตร เป็นศัตรู

และเมื่อหมดกรรมต่อกันก็จากกันไป

“ตัวเรา” นี่แหละที่เป็นผู้กำหนด

ซึ่งรายละเอียดในชีวิตของแต่ละคนเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

ทุกคนคือ “ตัวเอก” ในชีวิตของตัวเอง

ส่วนคนที่พบเจอคือ “ตัวประกอบ”

ดังเช่น คำของ “ครูบาพ่อบุญชุ่ม ญาณสํวโร” ที่กล่าวไว้บ่อยครั้ง

ความผูกพันธ์ของคนที่เกิดมาพบเจอกัน

คนเราเจอกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

ความสัมพันธ์เป็นพ่อเป็นลูก เป็นแม่เป็นลูก เป็นพี่เป็นน้อง

เป็นญาติ เป็นเพื่อนกัน ศัตรูคู่ อ า ฆ า ต

เป็นคนรัก เป็นเจ้านายเป็นลูก

เป็นนายทหาร เป็นขุนนาง ฯลฯ

มันเป็นบุพกรรมที่ทำร่วมกันมาทั้งนั้น ไม่ใช่ของเลื่อนลอย

เมื่อมีวาสนาต่อสิ่งใดไม่ต้องเรียกร้อง ถึงเวลาก็มาเอง

เมื่อสิ้นวาสนา ก็ต้องจากกัน ไม่มีหนทางรั้งไว้

ในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วยกันหรือยังไม่ได้แยกจากกัน

ยังอยู่ด้วยกัน ก็ควรสร้างกรรมดีต่อกัน

หมดวาสนาเมื่อถึงเวลาที่ต้องจากกัน

ไม่ว่าคุณจะมีเงินทองมากมายหรือมีอำนาจล้นฟ้า

ก็เรียกมันกลับคืนมาไม่ได้

ทุกๆ วจีกรรม กายกรรม และมโนกรรม

ที่เรานึกคิดพูดล้วนเป็นกรรมหมด

อยู่ที่เจตนาเป็นตัวตัวกำหนดบุญหรือบาป

ล้วนส่งผลต่อปัจจุบันและอนาคตทั้งนั้น…

เราจึงควรมีเมตตาต่อกันและต่อสรรพสัตว์ร่วมโลก

ที่มา บุญเรือน บุญพร้อม