Home »
Uncategories »
“ชายผ้าถุงแม่” เครื่องราง ของขลังมหามงคล ที่ไม่ต้องปลุกเสก
“ชายผ้าถุงแม่” เครื่องราง ของขลังมหามงคล ที่ไม่ต้องปลุกเสก
การมีชีวิตที่ดี และผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ
ที่เข้ามาเป็นปัญหาของชีวิตของเรา
สิ่งหนึ่งที่ทำให้เรามีชีวิตรอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้คือ
การถูกสั่งสอนให้เป็นคนดี มีศีลธรรม
รู้จักตอบแทนบุญคุณของพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเรามาจนเติบโต
ในสมัยก่อนเวลาที่ไปออกรบ
โดยชายไทยในสมัยโบราณนั้นได้มีความเชื่อว่า หากขอเศษผ้าถุงแม่
หรือขอชานหมากของพ่อสองสิ่งนี้เป็นสิ่งคุ้มครองภัยและเป็นเครื่องรางชั้นดี
เพราะสองสิ่งนี้ถือเป็นตัวแทนความรักอันบริสุทธิ์ของพ่อแม่
เพื่อให้ลูกนั้นสามารถคิดถึงความดีงาม ความกตัญญูด้วยตัวเอง
เมื่อคุณธรรมต่อคุณธรรมมาบรรจบกัน
สิ่งเหล่านี้จึงเป็นของศักดิ์สิทธิ์ได้โดยไม่ต้องปลุกเสก
โดยสิ่งเหล่านี้จะสามารถสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นได้เสมอมา
ดังเรื่องของพ่อครูศิริพงษ คุรุพันธกิจ เล่าไว้เมื่อปี 2553 มีความว่า
เราพร่ำสอนลูกทุกคนเสมอให้กระทำกตเวทิตาแก่พระในบ้านให้มากๆ
เราเตือนลูกทุกคนให้หยุดแสวงหาพระดีอาจารย์ขลังนอกบ้านเพราะพระที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด
สูงที่สุดมีพรอันเป็นมงคลที่ประสาทครั้งใด
ก็นำความสำเร็จสมปรารถนาอย่างมั่นคงให้ลูกทุกคนโดยมิได้หวังลาภสักการะ
สินจ้าง รางวัล จากผู้บูชาคือลูกเลย
ใจของพ่อใจของแม่มีแต่ตั้งความหวังให้ลูกมีความสุขความสำเร็จในการดำเนินชีวิต
ซึ่งท่านก็ได้เอาตัวอย่างของผู้ที่บูชาพ่อแม่แล้วประสบความเจริญรุ่งเรือง
แม้จะมาจากต่างแดนห่างไกลแต่ก็มีคนคอยต้อนรับอย่างอบอุ่นอยู่เสมอ
พบสังคมที่ดี และได้รับความช่วยเหลือเสมอ
โดยเป็นเรื่องราวของหนุ่มคนหนึ่งที่เรียนจบชั้นปริญญาตรีเอกบรรณรักษ์
เป็นเด็กที่มีอัธยาศัยดีเป็นที่รักของผู้ร่วมงาน
ทั้งครอบครั้วนั้นก็ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานจนสามารถเลื่อนขั้นเป็นหน้าห้องของปลัดกระทรวง
อีกทั้งยังมีนิสัยขยันวันหยุดก็จะไปเปิดท้ายรถขายของ
ทำงานไม่เคยหยุดหารายได้ตลอด
และด้วยความชอบค้าขายและบวกกับมีคนมาติดต่อให้ไปเป็นผู้จัดการร้านอาหารไทยที่ต่างประเทศ
หนุ่มรายนี้ตัดสินใจลาออกจากราชการทันที
ซึ่งก่อนออกเดินทางเขาได้เข้าไปหาแม่ ให้แม่ช่วยอวยพร
ให้ประสบพบแต่ความสำเร็จ และขอเอาชายผ้าถุงแม่ไปเป็นวัตถุมงคลที่ระลึก
จากนั้นเขาก็สามารถทำหน้าที่ เป็นผู้จัดการร้านอาหารได้ปีเศษ
และมีคนเสนอขายกิจการให้กับเขา
เขาเลยตกลงซื้อและวางแผนจัดการร้านของตัวเองทุกอย่าง
และอบรมกิริยามารยาทพนักงานต้อนรับในร้านด้วยตนเอง
เขาประสบความสำเร็จเพียงเวลา ๓ ปี เท่านั้น
อีกทั้งยังส่งเงินมาให้แม่อีกด้วย
และปลูกบ้านให้แม่หลังงามที่เมืองไทยพร้อมยังสร้างบ้านที่อเมริกาอีกด้วย
ปัจจุบันภรรยาที่เมืองไทยเสียชีวิตด้วยโรคร้าย
เขามีภรรยาใหม่ที่ต่างแดน อาชีพภรรยาก็มั่นคง
เขาได้รับสิทธิ์เป็นคนอเมริกันอย่างง่ายดาย ไม่ต้องจ้างใครรับรอง
ไม่ต้องอยู่อย่างหลบเลี่ยง จะคิดทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ
แม่ที่อยู่เมืองไทยก็มีความสุขจากการส่งเสียดูแลเป็นอย่างดีจากเขา
ชายคนนี้ทุกครั้งที่ทำอะไรเขาต้องการกุศลอันใดก็จะนึกพ่อแม่กก่อนเสมอและดูแลท่าน
ให้เงินท่านทุกเดือนให้ไม่ขาดแม่ผู้รับเงินแทนคุณจากลูกทำบุญตักบาตรสร้างกองการกุศลให้ลูกในทุกๆวัน
อธิษฐานให้ลูกนั้นเจริญรุ่งเรืองและประสบความสำเร็จ
เป็นที่เมตตารักใคร่ของคนทั่วไปปราศจากอุปสรรคภยันตรายใดๆ ทั้งปวง
ฟังเรื่องราวจากปากหนุ่มนายนี้
ต่างโจษจันยกย่องสรรเสริญหนุ่มผู้กตัญญูบูชาพระที่ถูกองค์คนนี้กันทั่วกรมศิลปากร
อย่างนี้แหละที่เขาเรียกว่า “ตั้งดีพลีถูกองค์” จึงประสบความสำเร็จ
อีกเรื่องหนึ่งเป็นเรื่องของ สารวัตรโต พ.ต.อ.(พิเศษ) พีระ บุญเลี้ยง
กับเรื่องเล่า “ปาฏิหาริย์แห่ง ชายผ้าถุงแม่”
เคยเล่าเรื่องราวให้ฟังผ่านสื่อ “คมชัดลึก” ว่า
ในสมัยที่อาสาสมัครลงไปปฏิบัติหน้าที่ใน
อ.ยะหา จ.ยะลา เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๔ ระหว่างออกปฏิบัติหน้าที่เข้าแผน
ถูกซุ่มยิงประมาณตอนทุ่มเศษๆ กระสุนปืนเอ็ม ๑๖ ฝังหัวกะโหลก คิ้วขาด
จากนั้นก็ถูกส่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าฯ กทม. ประมาณ ๖ เดือน
จึงหายเกือบเป็นปกติ เพราะกระสุนปืนยังไม่ได้ถูกผ่าออก
จากนั้นก็ถูกย้ายให้มาประจำการที่ กทม. ให้หลังจากนั้นอีกประมาณ ๕ ปี
กระสุนปืนที่ค้างในกะโหลกจึงถูกขับออกจากร่างกายโดยธรรมชาติ
ด้วยเหตุที่เป็นนักเรียนนายร้อยจบใหม่ ผู้ใหญ่ก็ไม่รู้จัก
รวมทั้งไม่รู้จักใครในวงการพระเครื่อง
เรื่องเครื่องรางของขลังและพระเครื่องดีๆ ที่เขาว่าคงกระพันชาตรี เหนียว
และแคล้วคลาดไม่ต้องพูดถึง เพราะไม่มีใครให้ และไม่รู้จะหามาจากที่ไหน
แต่มีเรื่องเล่าของทหารและรุ่นพี่ๆ เรื่องปาฏิหาริย์แห่งชายผ้าถุงแม่ว่า
เครื่องรางที่ดีที่สุด คือ ชายผ้าถุงของแม่ ที่เข้มขลังโดยไม่ต้องปลุกเสก
“เครื่องรางที่ดีที่สุดคือ
ชายผ้าถุงของแม่ที่เข้มขลังโดยไม่ต้องปลุกเสก
ก่อนที่จะลงไปปฏิบัติหน้าที่ได้ไปกราบลาขอพรรวมทั้งขอชายผ้าถุงของท่าน
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าชายผ้าถุงของแม่แสดงปาฏิหาริย์จริงๆ”มีอยู่สิ่งหนึ่งที่สารวัตรโตยึดปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ
คือ สวดมนต์นั่งสมาธิก่อนนอนทุกคืน
และเมื่อตื่นนอนตอนเช้าจะสวดมนต์อีกครั้งหนึ่งก่อนออกปฏิบัติหน้าที่
ทั้งนี้ สารวัตรโตจะบอกเพื่อนตำรวจที่อยู่ในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอว่า
“มีสติ
ก็มีลมหายใจ หมดสติก็หมดลมหายใจ เสื้อเกราะและอาวุธปืนอาจจะป้องกันกายได้
แต่ที่ป้องทางกายและใจได้เป็นอย่างดีคือ สติ
ส่วนพระเครื่องและเครื่องรางของขลังนั้นเป็นส่วนประกอบทำให้สติเรามั่นคงมากยิ่งขึ้น
เพราะตราบใดที่สติเราหลุดออกไป สิ่งแรกที่จะดึงสติเรากลับมาคือ พระเครื่อง
เครื่องรางของขลัง”
ที่เรายกตัวอย่างเรื่องนี้ให้ฟังเพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่า
เทพเจ้าแห่งความสำเร็จของทุกคนอยู่ในบ้านเป็นมนุษย์เดินดินกินข้าวธรรมดานี่เอง
อยู่ในบ้านของเราไม่ใช่เทวดาที่ไหน
ฉะนั้นลูกทั้งหลายที่ยังมีพ่อแม่ก็ควรดูแลตอบแทนท่านให้ดี
ให้ท่านสุขกายสบายใจ
ด้วยการกระทำของตนแล้วสิ่งที่นึกไม่ถึงว่าจะสำเร็จอย่างง่ายดายจะบังเกิดขึ้นกับตนเอง
ข้อมูลและภาพจาก postsod