Home »
Uncategories »
วิบากกรรม ของผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ”เมียน้อย”
วิบากกรรม ของผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ”เมียน้อย”
วิ บ า ก ก ร ร ม ของผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ”เมียน้อย”
ใครกำลังก่อความรักในที่ลับ เป็นมือที่ตาม ของผัว-เมีย ชาวบ้าน ควรอ่านเลยนะ รับรองว่า จะทำให้คุณคิดอะไรได้หลายๆอย่างแน่นอนค่ะ
ในแง่มุมของกรรมวิบากแล้ว
เหตุผลน่าเห็นใจ..ไม่มี..มีแต่จิตสำนึกและเจตนาในการเป็นเมียน้อย
ฉะนั้นคำว่าเมียน้อย ไม่ได้แปลว่า..เ ล ว ร้ า ย..หรือ..ผิดทันที
แต่ต้องดูว่าเงื่อนไขของเมียน้อยคืออะไร
กรณีที่ 1
ถ้าได้รับการยินยอมพร้อมใจจากเมียหลวงอย่างเต็มใจ
ก็ไม่มีใครผิดศีล ไม่มีใครก่อบาป เพราะเป็นการกระทำอย่างเปิดเผย
โดยไม่มีใครเป็นทุกข์จากการรับรู้ความจริง
เหตุผลโดยมากที่เมียหลวงยอมคือ..เบื่อเซ็กซ์..ตรงกันข้ามหากว่ารู้ทั้งรู้ว่าเมื่อถึงเวลานั้นหากเมียหลวงทราบเขาจะต้องเจ็บปวดสาหัสอย่างนั้นก็เข้าข่าย..เป็นชู้
ผิดศีลธรรม เป็นการก่อบาปเต็มประตู
กรณีที่ 2
หลวมตัวตกเป็นน้อยด้วยความไม่รู้มาก่อนหรือรู้แต่ก็ยังขืนทำต่อไป
หากว่าฝ่ายหญิงถูกฝ่ายชายหลอกต้มอย่างสนิทก็ถือว่า..ไม่บาป
เพราะกรณีนี้บาปจะเกิดก็ต่อเมื่อรู้ทั้งรู้แล้วยังขืนทำต่อไปอีกเท่านั้น
อย่างนี้ถือว่า..บาป..
อาจจะเป็นเพราะฝ่ายชายดีเกินห้ามใจหรือเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ที่ฝ่ายหญิงยกมาเป็นข้ออ้างให้กับตัวเอง
แต่ที่แน่ๆหลายๆคนมักมองว่าผู้ชายเป็นฝ่ายเลวเสมอ
เป็นคนเห็นแก่ตัว..ไม่รู้จักพอ..
มีบางบางกรณีเหมือนกันที่ฝ่ายชายทนเทคนิคยั่วของฝ่ายหญิงไม่ไหว
ธรรมชาติให้อาวุธลับผู้หญิงเพื่อล่อใจชายมาหลายชิ้น เปิดของลับ
วับๆแวมๆหน่อย ชายส่วนใหญ่ก็ตะลึงงง ลืมศีลธรรมกันแล้ว
ซึ่งพออะไรเลยเถิดแล้วเรื่องแดงขึ้นมา ฝ่ายหญิงบีบน้ำตาหน่อย
สังคมก็จะรุมประนามฝ่ายชายทันที
อย่างนี้ก็ถือว่าน่าเห็นใจฝ่ายชายได้เหมือนกัน
เห็นใจที่เขาไม่สามารถควบคุมจิตฝ่ายต่ำของตัวเองได้..นั่นเอง
(ไม่ได้ว่าผู้ชายเลวทุกคนหรอกค่ะ ที่ดีก็ยังมีอีกเยอะ)
กรณีที่ 3
ทำเพื่อเงินหรือทำเพื่อความรัก?ถ้าแพ้เงินก็บาปมาก
แต่ถ้าแพ้รักก็บาปน้อยลง แต่ไม่ใช่ไม่บาปเลย ถึงยังไงการเป็นชู้
ก็เป็นอกุศล เป็นสิ่งบาดจิตให้ทุกฝ่ายเกิดแผลวันยังค่ำ
และข้ออ้างที่มักได้ยินอยู่บ่อยๆก็คือ
..เรารักกันมาก….โดยพากันซุกซ่อนคำอีกคำไว้นั่นคือ..ถึงแม้จะรู้ว่าคนที่เป็นหลวงรู้เข้า
จะเจ็บจนเจียนขาดใจก็ช่าง..ในยุคปัจจุบันก็มีบ้างเหมือนกันที่เมียน้อยร่ำรวยกว่าฝ่ายชายและฝ่ายเมียน้อยเป็นฝ่ายจุนเจือฝ่ายชายเพียงเพราะคำว่า..รัก..
กรณีที่ 4
ทำเพื่อตัณหาส่วนตัวหรือทำเพื่อพ่อแม่พี่น้องเดือดร้อน..หากยอมเป็นน้อยด้วยความ?กลั้นไม่อยู่?กับความรู้สึกฝ่ายต่ำของตัวเองก็ถือว่าเป็นบาป
แต่ถ้าจำใจเป็นเมียน้อยด้วยความจำเป็นทางครอบครัวบีบคั้น
เช่นยอมเป็นนางบาป เพื่อให้พ่อแม่ครอบครัวบรรเทาความเดือดร้อนสักครู่หนึ่ง
เมื่อได้เงินทองเท่าที่จำเป็นแล้วก็ทำตัวหายสาปสูญไปจากฝ่ายชายชั่วนิรันดร์
หากคิดอย่างนั้นและทำอย่างนั้นได้จริงๆ โทษก็จะเบาลงตามส่วน
กรณีที่ 5
ทำไปแล้ว
พลาดไปแล้ว เกิดสำนึกผิด หรือ ไม่สำนึกเลย หากสำนึกผิด
จิตจะไม่จับบาปไว้เต็มกำ แต่ยิ่งด้านชาไร้สำนึกเท่าไหร่
จิตก็จะเข้าฝ่ายอกุศล มืดมนจนไม่เห็นทางสว่างในทางที่ดี
และจิตจะถูกบีบให้คิดก่อการร้ายเพิ่มขี้นเรื่อยๆ
ประเภทนี้ภพข้างหน้ามักเกิดเป็นอะไรที่ต่ำกว่ามนุษย์ หรือไม่ได้เกิดเลย
เพราะมาตรฐานมโนธรรมไม่ถึงมนุษย์
กรณีที่ 6
เมื่อรู้ว่าตกเป็นเมียน้อยแล้วตั้งใจจะหยุด(กรณีนี้น่าเห็นใจที่สุด)หรือคิดที่จะเป็นน้อยต่อไปเรื่อยๆ
ไม่ว่าจะโดนเขาหลอกหรือหลอกตัวเอง
ดิฉันเชื่อว่ามีเมียน้อยกว่าครึ่งที่อยากจะเลิกให้ได้ในวันนี้หรือพรุ่งนี้
แต่เลิกไม่ได้เพราะ..ทำใจไม่ได้..นั่นเอง
และถึงแม้จะประสบความล้มเหลวกับการตัดเยื่อตัดใย ทำใจไม่ได้
แต่อย่างน้อยถ้าตั้งใจจริง ก็ถือว่าดีแล้วล่ะค่ะ
จัดเป็นกรรมขาวบนฐานของกรรมดำแล้ว
ส่วนพวกที่คิดตั้งใจจะเป็นเมียน้อยไปจนวันต
า ยนั้น เหตุผลของการตัดสินใจเป็นน้อย
จะเป็นตัวกำหนดความหนักความวิบากในปัจจุบันของชีวิตเขาเอง นั่นคือ
6.1..ความทรมานใจ.. เหมือนกับการกินบอรเพ็ดที่ต้องขมและมีไม่กี่คนที่ชอบใจ
6.2..ความรู้สึกเป็นรอง..แม้ฝ่ายชายจะไหว้ปะหลกๆก่อนออกจากบ้านก็ตาม
แต่ความรู้สึกเป็นรองจะไม่หมดไปจากใจเมียน้อย
ตราบเท่าที่สังคมและตัวฝ่ายชาย
ยังประกาศกับใครต่อใครว่าเมียหลวงเป็นภรรยาตามกฏหมาย
6.3..ความไม่มีศักดิ์ศรี..ถึงจะประสบความสำเร็จกับการเป็นเมียน้อยจนถึงจุดสูงสุดแล้วก็ตาม
คือมีเงินหลายสิบล้าน มีทุกสิ่งทุกอย่าง
แต่สิ่งเดียวที่เมียน้อยรู้สึกไม่มีก็คือ..ศักดิ์ศรี..เพราะการที่มีครบถ้วนสมบูรณ์แบบทุกอย่างแต่ต้องอยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรีนั้น
นานไปจะรู้ว่า
..ไม่มีอะไรเลยอย่างมีศักดิ์ศรีเสียยังดีกว่า..เพราะถึงแม้ศักดิ์ศรีจะกินไม่ได้..แต่บางครั้งมันก็ทำให้เรากินข้าวได้อร่อย
กว่าคนไร้ศักดิ์ศรี
นี่ก็เป็นอีกคำเปรียบเทียบหนึ่งของคนบางคนที่เคารพในศักดิ์ศรีของตัวเองค่ะ
คนเราสามารถก้าวพลาดกันได้ค่ะ
แต่ถ้าพลาดไปแล้วก็ขอให้พลาดอย่างมีสติ เราเลือกเกิดไม่ได้
แต่เลือกที่จะเดินตามความถูกต้องได้ แม้บางครั้งอาจจะขัดกับศีลธรรมไปบ้าง
และสำหรับบางคนแล้ว ตัวเขาเองก็ไม่ได้อยากจะเป็นแบบนี้
แต่ถ้าเป็นไปแล้วเนี่ย
ทำอย่างไรให้เราอยู่กับมันให้ได้อย่างมีสติและมีความสุขโดยไม่ทำให้ใครเดือดร้อน..นั่นต่างหากคือสิ่งที่เราต้องทำ
เพราะคนทุกคนมีเหตุผล มีที่มา ที่แตกต่างกันไปเสมอ
*ความร้อนเริ่มต้นด้วยไฟ
แต่ลงท้ายเราเลือกได้ว่าจะเป็นไฟหรือเป็นน้ำ
ถ้าเลือกเป็นไฟก็เผาใจตนเองและผู้อื่น
แต่ถ้าเลือกเป็นน้ำก็นำความเย็นสบายมาสู่ผู้อื่นและตนเอง
ที่มา gangbeauty