นโยบายของเวียดนาม ที่ประเทศไทย ตามหลังอยู่มาก

เวียดนามยังสู้ไทยไม่ได้หรอก แต่อีกไม่นานเขาจะแซง ถ้าเรายังไม่ขยับ

ขอพูดถึงเรื่องมิติต่างจังหวัด แค่มิติเดียว  ยังไม่พูดถึงเรื่องอื่นๆ เช่น เศรษฐกิจและการลงทุน 

ในขณะที่กรุงเทพฯ ยังเป็นแทบทุกสิ่งของประเทศไทย แต่ฮานอยไม่ใช่แล้ว ประเทศเขาขับเคลื่อนโดยเศรษฐกิจเมืองใหญ่ๆ  ฮานอย ดาหนัง โฮจิมินห์ ไฮฟอง ฯลฯ ( ไม่ใช่แค่กรุงเทพอย่างเดียว เหมือนประเทศเรา)

เวียดนามแบ่งการปกครองเป็นจังหวัด provinces คล้ายไทย เรียกว่า ติ๋ญ tinh

แต่สำหรับเมืองใหญ่เขามีรูปแบบการปกครองพิเศษเป็นนคร อังกฤษเขียนเป็น municipalities ฟังคล้ายเทศบาลแต่มันไม่ใช่เทศบาลหรอก

เพราะเขามีการแบ่งเขตเมือง urban กับ rural ออกจากกันเด่นชัด

เมือง ต้องพัฒนาแบบ เมือง

ภาษาเวียดนามเรียกยาก ถั่นโฟ้วฉึกถวกชุงเอือง ขอเรียกง่ายๆ แบบไทยๆ ว่า นครถั่นโฟ้วฯ แล้วกัน

เวียดนามมีการจัดการปกครองรูปแบบนครใหญ่ ถั่นโฟ้วฯ 5 เมือง คือ ฮานอย โฮจิมินห์ (ไซ่ง่อน) ดาหนัง ไฮฟอง และ เกิ่นเทอ

ไม่เพียงแค่นั้นนะครับ

จังหวัดไหนที่มีพัฒนาการของ urban area เป็น city ขึ้นมา เขาก็ไม่แช่แข็งไว้ เขาจึงมีแผนจะยกฐานะให้เป็น นครถั่นโฟ้วฯ อีก

ถั่วเทียน-เว้ จะยกฐานะในปีหน้า 2020

จากนั้นก็ดาหลัด ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว

แล้วก็มีอีก 3-4 จังหวัดจะเปลี่ยนรูปแบบการบริหารปกครอง ให้เป็นเมืองจริงๆ

ไทยเรายังไม่มีครับ

ยังไม่มีความคิดยกฐานะ เชียงใหม่ ขอนแก่น อุดรฯ สงขลา ภูเก็ต ฯลฯ ขึ้นเป็นรูปแบบนคร อย่างเก่งก็เทศบาลนคร เล็กๆ แคบๆ พื้นที่ชนกับเทศบาลเมือง และอบต.รอบๆ มีอำนาจนิดเดียว

ไม่เหมือนเวียดนาม

อันที่จริงรูปแบบการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาล ต่อเนื่องด้วย จังหวัดการปกครองส่วนภูมิภาคนั้น มีไว้สำหรับการปกครองพื้นที่ชนบท ก็คือ rural เป็นสำคัญ

โครงสร้างการดั้งเดิมของเราคือเน้นปกครอง “ชนบท” ให้ครอบคลุมพื้นที่ ไม่ใช่เน้นที่การพัฒนา”เมือง”

แต่โลกยุคใหม่ “เมือง” กำลังเป็นหัวใจของสังคม เป็นยุค urbanization

นโยบายของไทยเราจึงตามเวียดนามอยู่ก้าวใหญ่ ในมิตินี้

มหาดไทยไม่ได้ถูกฝึกให้ชำนาญในการพัฒนา modern cities /metropolis รวมถึง urban development

ปลัด นายอำเภอ และวิถีการเพาะบ่มประสบการณ์ของคนมหาดไทย อยู่ที่ rural area เป็นรากฐาน

ขอบคุณผู้เขียน บัณรส บัวคลี่ 

ขอบคุณภาพจาก blog.bangkokair.com