Edit เสน่ห์ปลายจวักแกงกะทิสายบัวปลาทูสูตรโบราณ เสน่ห์ปลายจวักแกงกะทิสายบัวปลาทูสูตรโบราณ เสน่ห์ปลายจวักวันนี้เรามีอาหารสูตรโบราณที่นับเป็นอาหารที่เราต่างรู้จักกันดีเมนูง่ายๆทำง่ายกลิ่นหอมที่แน่ๆอร่อยด้วยนั่นคือแกงกะทิสายบัวปลาทูนับวันจะหาทานได้ยากมากขึ้นทุกทีแม้แต่เด็กรุ่นใหม่ๆสมัยนี้ส่วนมากก็ยังไม่เคยทานด้วยซ้ำ มาดูวิธีทำกัน วัตถุดิบสำหรับทำกะทิสายบัวปลาทู 1.สายบัวลอกเปลือกออกหั่นหรือหักเป็นท่อนๆจำนวน400กรัม 2.ปลาทูแกะเอาแต่เนื้อจำนวน4ตัว 3.น้ำตาลมะพร้าว ½ ช้อนโต๊ะ 4.กะทิกล่องตราอร่อยดี 4ถ้วย 5.น้ำเปล่าจำนวน 2ถ้วย 6.หอมแดงจำนวน6หัว 7.พริกไทยเม็ดจำนวน1ช้อนโต๊ะ 8.กะปิจำนวน1ช้อนโต๊ะ 9.เกลือจำนวน½ช้อนโต๊ะ 10.น้ำปลาประมาณ1ทัพพี 11.น้ำมะขามเปียกคั้นเอาแต่น้ำจำนวน3ช้อนโต๊ะ 12.ใบโหระพาเด็ดใบ ส่วนวิธีทำ 1.โขลกพริกไทยเม็ดให้ละเอียด ใส่หอมแดงลงไปโขลกให้ละเอียดแล้วใส่กะปิโขลกต่อให้ละเอียดอีกที 2.นำกะทิใส่ใส่ลงไปในหม้อเติมน้ำเปล่าเอาขึ้นตั้งไฟแล้วนำน้ำพริกแกงที่ตำไว้แล้วใส่ลงไปคนให้ละลายแล้วรอให้เดือดจนกระทั่งมีกลิ่นหอมแล้วใส่สายบัวลงไป 3.ปรุงรสด้วยเกลือ/น้ำตาลมะพร้าว/และน้ำมะขามเปียก /น้ำปลา/แล้วคนให้ทั่วจนสายบัวสุกใส่ปลาทูที่เราแกะไว้แล้วใส่ลงไปคนเบาๆให้เข้ากันแล้วใส่ใบโหระพาลงไป 4.ชิมรสตามใจชอบแล้วตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟได้เลย มีเคล็ดลับสำหรับทำแกงกะทิสายบัว 1.วิธีการเลือกสายบัวที่ดีนั้นควรเลือกสายบัวที่ยังคงสดอยู่ไม่แห้งไม่เหี่ยวไม่เน่า 2.กะปิที่ใช้ควรเป็นกะปิแท้หรือกะปิแกงใต้เพราะจะได้รสชาติที่เข้มข้นกว่าและรสชาติไม่เพี้ยนด้วย ประโยชน์ของแกงกะทิสายบัวปลาทูนึ่ง -ช่วยในการขับถ่ายให้ระบบขับถ่ายคล่อง -ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง -ช่วยบำรุงสายตา -ช่วยดับร้อนในร่างกาย -ช่วยบำรุงกำลัง -ช่วยบำรุงหัวใจ -แก้ไข้ตัวร้อนแก้ไอมีเสมหะ -แก้อาการร้อนในกระ หายน้ำแก้ลมและโลหิต