Home »
Uncategories »
บางคน “ชอบช่วยเหลือคนอื่น” มากจนเกินไป สุดท้ายย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง
บางคน “ชอบช่วยเหลือคนอื่น” มากจนเกินไป สุดท้ายย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง
วันนี้ปริญญาชีวิตอยากบอกเพื่อนๆ ถึงข้อเสีย 9 ข้อ
ของคนที่ชอบช่วยเหลือคนอื่น มากเกินไป แง่มุมร้ายๆ ของการเป็น
“ชอบช่วยเหลือคนอื่น” มากจนเกินไป ที่สามารถย้อนกลับมาทำร้ายได้ทั้งตัวเอง
และคนใกล้ตัว อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
การเป็นคนใจดีเป็นวิถีทางสำคัญในการสร้างความหมายให้แก่ชีวิตของเราและผู้อื่น
การเป็นคนใจดีทำให้เราสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เห็นอกเห็นใจคนอื่นมากขึ้น
และยังเป็นแรงขับเคลื่อนด้านบวกให้ชีวิตผู้อื่นด้วย
จิตใจที่งดงามอย่างแท้จริงซ่อนอยู่ในตัวคุณ
บางคนอาจจะเป็นคนใจดีมาตั้งแต่เกิด
แต่ไม่ว่าใครก็สามารถเลือกที่จะสร้างนิสัยเป็นคนใจดีได้ด้วยกันทั้งนั้น
แต่บางครั้ง ความใจดี ก็อาจจะกลายเป็นทำให้เราเดือดร้อนซะเองได้
หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินกันมาบ้างว่าการที่เราเป็นคนใจดีมากเกินไป
จะทำให้ชีวิตของเราลำบาก ทั้งไม่มีคนเกรงใจ
ถูกคนอื่นมองว่าเป็นคนอ่อนแอและอีกมากมาย ลองไปเช็ก
สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณเป็นคน ใจดีเกินไป กันหน่อย จะได้ปรับเปลี่ยนตัวเอง
เผื่อชีวิตจะดีขึ้นบ้างเนอะ
1 ตกที่นั่งลำบาก
เพราะที่ผ่านมาใจดีมากจนเกินไป ใครขอให้ทำอะไรให้ช่วยอะไร
หรือแม้แต่คนอื่นเพียงแค่เสนอตัว และเอ่ยปากว่าเดือดร้อนเท่านั้น
ก็รีบวิ่งแจ้น วิ่งเต้นให้เขา เข้าใจว่าเป็นคนใจดี แต่บางทีใจดีมากเกินไป
เวลาไม่ช่วยแม้เพียงครั้งเดียว ที่เราไม่สามารถช่วยได้ คนๆ
เดิมก็จะหาว่าเราเป็นคนใจร้ายทันที ดังนั้นไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม
ก็ต้องช่วยเขาตลอดเวลา แม้ใจไม่อ ย า กช่วยแล้ว
2 ตามแก้ ปั ญ ห า
โดยไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือส่วนเกี่ยวข้องใด
ไม่ได้ประโยชน์แต่ดันเสียประโยชน์ส่วนตน
ความใจดีก็ทำให้เราต้องกลายมาเป็นคนที่คอยนั่งแก้ไข ปั ญ ห า ให้กับคนอื่น
ทั้งๆ ที่ตัวเองต่างก็ไม่ได้มีส่วนได้
หรือส่วนเสียให้กับเรื่องราวเหล่านั้น แถมยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุ
ที่สามารถช่วยสร้างความหนักหนาให้กับหัวใจได้เป็นอย่างดี
เพราะการต้องมานั่งคิดและแก้ไข ปั ญ ห า แทนคนอื่น
โดยที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองเลยแม้แต่นิด
3 กลัวคนอื่นจะไม่พอใจ จนต้องทำร้ายความรู้สึกของตัวเอง
โดยที่ไม่ถามตัวเองสักคำ ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร “ ความใจดี ”
อาจเป็นสิ่งที่สามารถทำให้คนบางคนเกิดความเกรงกลัวได้ว่า
คนอื่นจะต้องรู้สึกไม่พอใจแน่ๆ
4 คิดมากทุกเรื่อง
โดยเฉพาะเรื่องเดือดร้อนของคนอื่น เก็บการกระทำของคนอื่นมาคิดมาก
แง่ร้ายของการเป็นคนใจดีคือ มักกลายเป็นคนที่ชอบนำคำพูด
รวมถึงการกระทำของคนรอบข้างมาคิดมากจนเกิดเป็นความ ทุ ก ข์
5 ไม่ช่วยก็ไม่ได้ ถ้าช่วยก็เดือดร้อน
ต้องตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
นำตัวเองเข้าไปยืนอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าและคายไม่ออก
เพราะไม่สามารถบอกปัด หรือปฏิเสธความช่วยเหลือได้
จนทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัดและลำบากใจ แต่สุดท้ายแล้ว
ก็ไม่สามารถที่จะทำตามใจตัวเองได้อย่างที่ต้องการได้อยู่ดี
6
ห่วงคนอื่นมากเกินไปห่วงแต่ความลำบากของคนอื่นจนลืมตัวเอง คนใจดีบางคน
จึงมักชอบห่วงแต่ความลำบากของคนไกลตัว
มากกว่าที่จะมองเห็นถึงความรู้สึกของคนใกล้ตัว จนกลับกลายเป็นว่า
ได้ลืมนึกถึงตนเองและครอบครัวไป
7 กลายเป็นคนใจร้าย
เพราะการตอบปฏิเสธแค่ครั้งเดียว
หากสถานการณ์รอบข้างบีบบังคับให้ตอบปัดการช่วยเหลือ
ก็อาจมีผลทำให้คนบางคนต้องตกเป็นผู้ที่ถูกมองว่าใจร้ายจากคนอื่นโดยทันที
ทั้งๆ ที่เพิ่งเคยตอบไปปฏิเสธไปแค่เพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น
8 เสียความรู้สึก เมื่อหมดประโยชน์ บ่อยครั้งที่คนใจดีหลายคน
อาจจะต้องกลายเป็นคนใจร้าย เพียงเพราะการถูกมองข้ามความสำคัญ
เมื่อหมดผลประโยชน์กับคนบางคน
9 ตกอยู่ท่ามกลางคนที่ทำอะไรไม่เป็น
บางทีเขาจะคิดว่าคุณจะช่วยให้เขามีชีวิตดีขึ้น ร่ำ ร ว ย เ งิ น
สุขภาพแข็งแรงขึ้น เขาเลยกลายเป็นคนไม่ยอมพยายามทำอะไรเลย รอแต่คุณ
ไม่มีใครหรอกที่จะชอบความขัดแย้ง
ชอบทะเลาะ ชอบมี ปั ญ ห า แต่ถ้าคุณยอมทุกอย่าง
ทำตัวเป็นพรมเช็ดเท้าให้คนเหยียบ เพราะไม่อ ย า กทะเลาะ ไม่อ ย า กมี ปั ญ ห
า ถ้าเป็นแบบนั้นคุณจะไม่มีวันได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการเลยสักครั้ง
หลายคนทำผิดพลาดด้วยการพ ย า ย า
มใจดีกับผู้อื่นแต่ในขณะเดียวกันกลับลืมที่ใจดีกับตัวเอง
สาเหตุที่ว่านี้อาจเกิดมาจากการไม่ชอบตัวเองในบางมุม
และมักจะเกิดการจากที่คุณไม่สามารถรู้จักตัวเองได้ดีกว่าเดิม
น่าเสียดายที่ว่า ถ้าคุณไม่รู้สึกมั่นคงกับตัวเอง
ความใจดีของคุณที่มีต่อผู้อื่นมักจะกลายเป็นความใจดีที่หวังผลอย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว
หรือท้ายที่สุดคุณอาจจะเหนื่อยและท้อแท้เพราะว่าคุณให้ความสำคัญกับคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ
ทั้งหมดนี้อาจมีจุดเริ่มต้นเล็กๆ
จากคุณที่ชอบช่วยเหลือเขาแค่ 1 ครั้งเดียวก็เป็นได้ ฉะนั้น
ปล่อยให้เขาได้ลองทำเองบ้าง ล้มเอง เจ็บเองซะบ้าง เขาจะได้เก่งๆ
เรียบเรียงโดย ปริญญาชีวิต