เพจดังแฉ แม่รับเงินบริจาคช่วยลูกป่วย แต่เงินกลับไม่ถึงเด็ก
เอาเงินไปเที่ยว แต่งรถให้แฟนทอม
ด้านแม่แจงที่ไปเที่ยวเพราะครอบครัวอยากให้พักผ่อน
ส่วนแต่งรถแต่งก่อนที่ลูกจะประสบอุบัติเหตุ
กลายเป็นประเด็นดราม่าร้อนฉ่าอยู่ในขณะนี้ หลังจากที่ น.ส.รัชณีกร แซ่ฉั่ว โพสต์เฟซบุ๊กวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือลูกชายคือ ด.ช.วชิรวิชญ์ แซ่ฉั่ว หรือ น้องเฟรม อายุ 4 ปี ประสบอุบัติเหตุประตูเหล็กที่บ้านล้มทับ ทำให้สมองบวม สมองไม่สั่งการ เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช จังหวัดลพบุรี ตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2559 ซึ่งตั้งแต่น้องเฟรมประสบอุบัติเหตุตนก็ไม่ได้ทำงาน เงินที่มีก็นำมาเป็นค่านม แพมเพิส จนมีคนมากมายเข้ามาบริจาคเงินช่วยเหลือเป็นจำนวนมากจนยอดกว่า 2 ล้านบาท
แต่ทว่า แม่ของน้องเฟรม กลับไม่มีการออกมาชี้แจงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
จนทำให้หลาย ๆ คนเริ่มสงสัยและนำไปสู่การงัดหลักฐานออกมาแฉว่าแท้จริงแล้ว
แม่ของเด็กนั้นนำเงินที่ได้ไปปรนเปรอแฟนทอม
ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ชาวเน็ตต่างไม่พอใจจึงเข้าไปคอมเมนต์ในเฟซบุ๊กแม่น้องเฟรมเพื่อให้เจ้าตัวออกมาชี้แจง
นอกจากนี้ยังมีเพจเฟซบุ๊กชื่อดังอย่าง ธิชาคนเดิม เพิ่มเติมเด๋วบอก
ร่วมวงออกมาแฉด้วย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (20 มีนาคม 2560) รายการ เล่นใหญ่จัดใหญ่ ทางช่อง Bright TV น.ส.รัชณีกร แซ่ฉั่ว แม่ของ ด.ช.วชิรวิชญ์ แซ่ฉั่ว หรือ น้องเฟรม ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีร้อนดังกล่าว โดยเธอแจงว่า ไม่ทราบว่าเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรหลังจากที่ออกมาแฉ ซึ่งตนก็เข้าใจว่าเขาอยากได้ความจริงใจ อยากได้ยอดบริจาค ตนก็พยายามที่จะทำให้ได้อย่างที่เขาต้องการ ซึ่งมันก็ต้องทำเป็นขั้นตอน อย่างไรก็ดี ทางรายการจึงได้จิดต่อไปยังแอดมินเพจธิชาคนเดิม เพิ่มเติมเด๋วบอก เพื่อให้เคลียร์ประเด็นดังกล่าวกับแม่ของน้องเฟรม
โดยแอดมินเพจดัง ได้ยิงคำถามแรกว่า ทุกวันนี้ใช้จ่ายอะไรไปแล้วบ้างที่เป็นค่ารักษาของน้องจริง ๆ และขอหลักฐานด้วย ซึ่ง น.ส.รัชณีกร ได้เผยว่า มีค่าทำห้องแต่ห้องยังไม่เสร็จ แล้วก็มีอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ซื้อไว้ เช่น แอร์ เครื่องซักผ้าที่น้องต้องใช้แยกจากทุก ๆ คน อ่างล้างจานที่จะต้องเอาไว้ใช้ของน้องคนเดียว และตอนนี้ได้เบิกเงินออกมาแล้วประมาณ 2 แสนกว่าบาท
และในเรื่องของคอมเมนต์ที่มีประเด็นว่าตนลบเมนต์และบล็อกเฟซของคนที่มาเมนต์ ตนถูกแฮกเฟซบุ๊ก เพราะเฟซบุ๊กตนไม่มีเวลาว่างมานั่งอ่านทุกคอมเมนต์ ซึ่งแอดมินเพจดังได้ถามกลับว่า แล้วที่ผ่าน ๆ มา ที่มีการโพสต์ต่อ ๆ มา น.ส.รัชณีกร ก็ไม่ได้เป็นคนโพสต์ใช่หรือไม่ น.ส.รัชณีกร จึงแจงว่า ตนกดส่งเข้าไปว่าลืมรหัสผ่านทำให้ได้เฟซบุ๊กกลับคืนมา
ส่วนเรื่องที่ไปเที่ยวน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ที่ จ.กาญจนบุรี หรือเช็กอินไปเที่ยวตามที่ต่าง ๆ นั้น เพราะว่าตนพยายามจะทำให้ชีวิตตนดูมีความสุขมากที่สุดเพราะว่าตอนนี้ตนเจอเรื่องที่แย่มาก ซึ่งตรงนี้แอดมินเพจดัง ได้ถามว่า ถ้าบอกว่ารักลูกจริง ๆ ไม่คิดว่าจะเสียใจเหรอถ้าลูกเป็นอะไรไปตอนที่ น.ส.รัชณีกร ไม่อยู่ แล้วถ้าเสียใจทำไมถึงกล้าทิ้งลูกไป นี่ไม่ใช่การไปแค่วันเดียว แต่เป็นการไปเที่ยวค้างคืน
ทั้งนี้ น.ส.รัชณีกร บอกว่า เรื่องนี้เป็นความเห็นของที่บ้านที่อยากให้ตนพักผ่อน เพราะว่าตนเองนั้นก็มีโรคประจำตัว และเรื่องที่ออกจากงานมาแล้วเอาเงินที่ไหนเป็นค่าใช้จ่ายในการไปเที่ยว ตนขอแจงว่า ตนขายของออนไลน์เป็นพวกโทรศัพท์มือถือมือสอง
เมื่อถามถึงเรื่องเงินบริจาค น.ส.รัชณีกร เผยว่า ตอนนี้ยอดเงินบริจาคมีเข้ามาประมาน 2 ล้านกว่าบาท และอยากชี้แจงเรื่องเงินจำนวน 3 หมื่นบาทที่ชาวเน็ตจับจ้องว่าตนเอาเงินนั้นไปแต่งรถให้แฟนซึ่งไม่ใช่ความจริง ตนแต่งรถเมื่อเดือนพฤษภาคม 2559 ก่อนที่น้องเฟรมจะเกิดอุบัติเหตุ จากนั้นแอดมินเพจดัง ได้แทรกถามว่า แล้วเงินจำนวน 3 หมื่นบาทที่โอนออกไปจากธนาคารไทยพาณิชย์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาโอนไปทำอะไร ด้าน น.ส.รัชณีกร ได้บอกว่า โอนไปเข้าบัญชีธนาคารกสิกรเพื่อที่จะรวมยอด และยอดเงินยังอยู่ครบ ซึ่งเรื่องนี้ทำไมตนถึงไม่ชี้แจงก็เพราะว่า ถ้าตนชี้แจงไปก็เหมือนเป็นการแก้ตัว และที่มาตอบในรายการก็ไม่อยากให้มองว่าเป็นการแก้ตัว แต่เพื่อเป็นการชัดเจนจะได้ตอบในทีเดียว และมีหลักฐานมาโชว์ให้ดู และถ้าหากมีคนไม่พอใจในเรื่องของเงินบริจาคและอยากจะขอเงินคืน ตนก็ยินดีจะคืน
ด้านแอดมินเพจธิชาคนเดิม เพิ่มเติมเด๋วบอก ได้เสนอว่า อยากให้ทางโรงพยาบาลที่เป็นเจ้าของไข้ของน้องเฟรมเข้ามาร่วมดูแล และควรจะมีผู้ใหญ่ที่มีคุณวุฒิและวัยวุฒิมากกว่านี้เข้ามาดูแลด้วย และจะดีกว่าไหมถ้ามีคนที่รู้เรื่องว่าทุกอย่างควรจะทำอย่างไร จะใช้อะไร
อย่างไรก็ดี หลังจากที่รายการได้เผยแพร่ออกไป แอดมินเพจธิชาคนเดิม เพิ่มเติมเด๋วบอก ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความถึงการออกรายการดังกล่าวว่า พูดออกรายการไป 40 นาที แต่ทำไมรายการตัดมาออกเพียงเท่านี้
อย่างไรก็ตาม
เรื่องราวดังกล่าวก็มีทั้งคนที่ยังคอยส่งกำลังใจให้แก่ครอบครัวของน้องเฟรม
และแม่ของเด็ก และมีบางส่วนที่ยังเคลือบแคลงสงสัยถึงเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ ทีมงานกระปุกดอทคอมขอเป็นกำลังใจให้ ด.ช.วชิรวิชญ์ แซ่ฉั่ว หรือ น้องเฟรม หายจากอาการป่วย และกลับมาสดใส ร่าเริง ในเร็ววันด้วยนะคะ
ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Mananchaya Saechua, BrightTV20, ธิชาคนเดิม เพิ่มเติมเด๋วบอก
กลายเป็นประเด็นดราม่าร้อนฉ่าอยู่ในขณะนี้ หลังจากที่ น.ส.รัชณีกร แซ่ฉั่ว โพสต์เฟซบุ๊กวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือลูกชายคือ ด.ช.วชิรวิชญ์ แซ่ฉั่ว หรือ น้องเฟรม อายุ 4 ปี ประสบอุบัติเหตุประตูเหล็กที่บ้านล้มทับ ทำให้สมองบวม สมองไม่สั่งการ เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช จังหวัดลพบุรี ตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2559 ซึ่งตั้งแต่น้องเฟรมประสบอุบัติเหตุตนก็ไม่ได้ทำงาน เงินที่มีก็นำมาเป็นค่านม แพมเพิส จนมีคนมากมายเข้ามาบริจาคเงินช่วยเหลือเป็นจำนวนมากจนยอดกว่า 2 ล้านบาท
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (20 มีนาคม 2560) รายการ เล่นใหญ่จัดใหญ่ ทางช่อง Bright TV น.ส.รัชณีกร แซ่ฉั่ว แม่ของ ด.ช.วชิรวิชญ์ แซ่ฉั่ว หรือ น้องเฟรม ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีร้อนดังกล่าว โดยเธอแจงว่า ไม่ทราบว่าเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรหลังจากที่ออกมาแฉ ซึ่งตนก็เข้าใจว่าเขาอยากได้ความจริงใจ อยากได้ยอดบริจาค ตนก็พยายามที่จะทำให้ได้อย่างที่เขาต้องการ ซึ่งมันก็ต้องทำเป็นขั้นตอน อย่างไรก็ดี ทางรายการจึงได้จิดต่อไปยังแอดมินเพจธิชาคนเดิม เพิ่มเติมเด๋วบอก เพื่อให้เคลียร์ประเด็นดังกล่าวกับแม่ของน้องเฟรม
โดยแอดมินเพจดัง ได้ยิงคำถามแรกว่า ทุกวันนี้ใช้จ่ายอะไรไปแล้วบ้างที่เป็นค่ารักษาของน้องจริง ๆ และขอหลักฐานด้วย ซึ่ง น.ส.รัชณีกร ได้เผยว่า มีค่าทำห้องแต่ห้องยังไม่เสร็จ แล้วก็มีอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ซื้อไว้ เช่น แอร์ เครื่องซักผ้าที่น้องต้องใช้แยกจากทุก ๆ คน อ่างล้างจานที่จะต้องเอาไว้ใช้ของน้องคนเดียว และตอนนี้ได้เบิกเงินออกมาแล้วประมาณ 2 แสนกว่าบาท
และในเรื่องของคอมเมนต์ที่มีประเด็นว่าตนลบเมนต์และบล็อกเฟซของคนที่มาเมนต์ ตนถูกแฮกเฟซบุ๊ก เพราะเฟซบุ๊กตนไม่มีเวลาว่างมานั่งอ่านทุกคอมเมนต์ ซึ่งแอดมินเพจดังได้ถามกลับว่า แล้วที่ผ่าน ๆ มา ที่มีการโพสต์ต่อ ๆ มา น.ส.รัชณีกร ก็ไม่ได้เป็นคนโพสต์ใช่หรือไม่ น.ส.รัชณีกร จึงแจงว่า ตนกดส่งเข้าไปว่าลืมรหัสผ่านทำให้ได้เฟซบุ๊กกลับคืนมา
ส่วนเรื่องที่ไปเที่ยวน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ที่ จ.กาญจนบุรี หรือเช็กอินไปเที่ยวตามที่ต่าง ๆ นั้น เพราะว่าตนพยายามจะทำให้ชีวิตตนดูมีความสุขมากที่สุดเพราะว่าตอนนี้ตนเจอเรื่องที่แย่มาก ซึ่งตรงนี้แอดมินเพจดัง ได้ถามว่า ถ้าบอกว่ารักลูกจริง ๆ ไม่คิดว่าจะเสียใจเหรอถ้าลูกเป็นอะไรไปตอนที่ น.ส.รัชณีกร ไม่อยู่ แล้วถ้าเสียใจทำไมถึงกล้าทิ้งลูกไป นี่ไม่ใช่การไปแค่วันเดียว แต่เป็นการไปเที่ยวค้างคืน
ทั้งนี้ น.ส.รัชณีกร บอกว่า เรื่องนี้เป็นความเห็นของที่บ้านที่อยากให้ตนพักผ่อน เพราะว่าตนเองนั้นก็มีโรคประจำตัว และเรื่องที่ออกจากงานมาแล้วเอาเงินที่ไหนเป็นค่าใช้จ่ายในการไปเที่ยว ตนขอแจงว่า ตนขายของออนไลน์เป็นพวกโทรศัพท์มือถือมือสอง
เมื่อถามถึงเรื่องเงินบริจาค น.ส.รัชณีกร เผยว่า ตอนนี้ยอดเงินบริจาคมีเข้ามาประมาน 2 ล้านกว่าบาท และอยากชี้แจงเรื่องเงินจำนวน 3 หมื่นบาทที่ชาวเน็ตจับจ้องว่าตนเอาเงินนั้นไปแต่งรถให้แฟนซึ่งไม่ใช่ความจริง ตนแต่งรถเมื่อเดือนพฤษภาคม 2559 ก่อนที่น้องเฟรมจะเกิดอุบัติเหตุ จากนั้นแอดมินเพจดัง ได้แทรกถามว่า แล้วเงินจำนวน 3 หมื่นบาทที่โอนออกไปจากธนาคารไทยพาณิชย์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาโอนไปทำอะไร ด้าน น.ส.รัชณีกร ได้บอกว่า โอนไปเข้าบัญชีธนาคารกสิกรเพื่อที่จะรวมยอด และยอดเงินยังอยู่ครบ ซึ่งเรื่องนี้ทำไมตนถึงไม่ชี้แจงก็เพราะว่า ถ้าตนชี้แจงไปก็เหมือนเป็นการแก้ตัว และที่มาตอบในรายการก็ไม่อยากให้มองว่าเป็นการแก้ตัว แต่เพื่อเป็นการชัดเจนจะได้ตอบในทีเดียว และมีหลักฐานมาโชว์ให้ดู และถ้าหากมีคนไม่พอใจในเรื่องของเงินบริจาคและอยากจะขอเงินคืน ตนก็ยินดีจะคืน
ด้านแอดมินเพจธิชาคนเดิม เพิ่มเติมเด๋วบอก ได้เสนอว่า อยากให้ทางโรงพยาบาลที่เป็นเจ้าของไข้ของน้องเฟรมเข้ามาร่วมดูแล และควรจะมีผู้ใหญ่ที่มีคุณวุฒิและวัยวุฒิมากกว่านี้เข้ามาดูแลด้วย และจะดีกว่าไหมถ้ามีคนที่รู้เรื่องว่าทุกอย่างควรจะทำอย่างไร จะใช้อะไร
อย่างไรก็ดี หลังจากที่รายการได้เผยแพร่ออกไป แอดมินเพจธิชาคนเดิม เพิ่มเติมเด๋วบอก ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความถึงการออกรายการดังกล่าวว่า พูดออกรายการไป 40 นาที แต่ทำไมรายการตัดมาออกเพียงเท่านี้
ทั้งนี้ ทีมงานกระปุกดอทคอมขอเป็นกำลังใจให้ ด.ช.วชิรวิชญ์ แซ่ฉั่ว หรือ น้องเฟรม หายจากอาการป่วย และกลับมาสดใส ร่าเริง ในเร็ววันด้วยนะคะ
ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Mananchaya Saechua, BrightTV20, ธิชาคนเดิม เพิ่มเติมเด๋วบอก