The ALL-New MINI Countryman 2017 Exclusive Preview
มินิ ประเทศไทย จัดกิจกรรมพิเศษ The ALL-New MINI Countryman Exclusive Preview นำลูกค้าและสื่อมวลชนมุ่งหน้าสู่บรรยากาศธรรมชาติแบบสบาย ๆ แนวคันทรีไซด์แคมปิ้ง เพื่อ "ADD STORIES" พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ และเพิ่มเรื่องราวให้กับชีวิตไปกับ MINI Countryman 2017 ก่อนการเปิดตัวสู่สาธารณชนอย่
ณ The Birder's Lodge Farmer's Market สถานที่ต้อนรับธีม country โรงนาสไตล์โลกฝั่งตะวันตก พี่จิมมี่ ปรีชา นินาทเกียรติกุล ผู้จัดการทั่วไป มินิ ประเทศไทย ได้ขับ ALL-New MINI Countryman เข้ามาเปิดตัว พร้อมกับขอสามคำให้แก่รถ "ใหญ่ สวย แรง", "อยาก ได้ มาก", "ขอ เถอะ นะ", "ขับ กลับ บ้าน" เรียกเสียงขบขัน และบอกความรู้สึกแรกที่มีต่อรถ MINI Countryman 2017 ได้ดี
เริ่มต้นเข้าสู่การพูดคุย พี่จิมมี่ ปรีชา นินาทเกียรติกุล ก็บอกเล่าถึงเอกลักษณ์ของ MINI และการพัฒนาจากรถยนต์
การควบคุมแบบ go-kart feeling
เริ่มแรกแต่เดิม รถยนต์ MINI กำเนิดเพื่อมาวิ่งในเมืองของประเทศอังกฤษ ถนนขับแคบ ควบคุมง่าย ประหยัดน้ำมัน และให้ผู้ใหญ่นั่งได้ 4 คน
ดีไซน์อันโดดเด่นสไตล์ MINI
เป็นเรื่องที่ยอมรับกันมาอย่างยาวนานว่า ดีไซน์มีความเอกลักษณ์สูง คือถ้ารถทรงนี้ การเล่นสีตัวถังและหลังคา ก็จะรู้ได้ทันทีว่าเป็นรถยนต์ MINI
เรื่องนี้ก็ไม่ได้เพิ่งเริ่ม มีความเป็นมายาวนาน ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1964 การแข่งขันแรลลี่ Monte Carlo เนื่องจากเป็นรถยนต์ที่เล็กยากต่อการมองเห็น แม้แต่กล้องส่องทางไกลก็ยังเห็นไม่ชัด MINI จึงแก้ปัญหาการเห็นรถยาก ด้วยการทาสีขาวบนหลังคารถให้แตกต่าง นี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นการใช้สีรถแบบทูโทนครั้งแรก และในปีนั้นรถยนต์ MINI สามารถคว้าแชมป์การแข่งขันด้วย
ความเป็นวาไรตี้
จาก 2 สิ่งแรกที่กล่าวมา ส่งเสริมบุคลิกให้ MINI เป็นรถที่ดูสนุก สามารถปรับสีของอุปกรณ์และสีภายนอกรถได้เยอะ ในต่างประเทศ ลูกค้าเลือกสีอุปกรณ์ได้ตามความต้องการ อยากได้พวงมาลัยลายไหน เบาะลายอะไร หรือไปตกแต่งหลังคาลายยูเนียนแจ็ค, ลายหมากรุก สำหรับประเทศไทยที่ยอดจำหน่ายไม่ถึงขั้นนั้น แต่ก็สามารถเลือกตกแต่งได้ เพียงไม่อิสระเท่า
และการที่เลือกตกแต่งได้เยอะ รถก็จะมีเอกลักษณ์ มีความเป็นตัวเอง เป็นอีกเคล็ดลับที่ทำให้ MINI เป็นรถในฝันของใครหลาย ๆ คน
The ALL-New MINI Countryman 2017 กับการเปลี่ยนแปลงในหลายสิ่ง
เป็นไปตามยุคสมัยที่ผู้คนมองหารถยนต์ที่คุ้มค่า อเนกประสงค์มากขึ้น มีความบึกบึน มิติรถใหญ่และกว้างขึ้นกว่าเดิม ด้วยขนาดความยาวที่เพิ่มขึ้นถึง 20 เซนติเมตร ความกว้างที่เพิ่มขึ้นอีก 3 เซนติเมตร และฐานล้อที่ยาวขึ้น 7.5 เซนติเมตร
ไฟ Day time running lights แบบวงแหวน กระจังหน้าและฝาครอบไฟเลี้ยวด้านข้างที่มีรูปแบบเฉพาะของคูเปอร์และคูเปอร์ เอส ด้านข้างถูกดีไซน์ใหม่ให้เกิดเป็นเส้นสายลากตั้งแต่บังโคลนหน้าด้านบนลงสู่ประตูหน้า-หลังด้านล่างและลากขึ้นด้านบนของบังโคลนท้าย ราวหลังคาที่มาพร้อมกับราวประตูด้านล่างสี Silver (ในรุ่น Cooper ไม่มีราวหลังคา)
ภายในถูกดีไซน์ใหม่ทั้งหมด ในส่วนแดชบอร์ดใช้วัสดุคุณภาพดีออกแบบด้วย 3 เลเยอร์ และด้วยขนาดรถที่ใหญ่ขึ้นช่วยให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างมากยิ่งขึ้น ทั้ง Headroom Legroom และ Shoulder room มินิ คันทรีแมน ประกอบด้วย 5 ที่นั่งแบบเต็มตัว
ช่องเก็บสัมภาระที่มีความจุเพิ่มขึ้นโดยมีความจุมากถึง 450 ลิตรและยังสามารถขยายขนาดเพิ่มขึ้นเป็น 1,309 ลิตร เมื่อทำการพับเบาะที่นั่งหลังซึ่งแยกกันที่สัดส่วน 40:20:40 เพื่อความสะดวกสบายและการใช้งานต่าง ๆ
หน้าจอขนาด 8.8 นิ้ว มาพร้อมระบบสัมผัส (เฉพาะในรุ่น Cooper S) เป็นครั้งแรก บริเวณกลางแผงคอนโซลรถ ซึ่งทำหน้าที่เป็นจอแสดงผลข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Navigation ข้อมูลของตัวรถ ความบันเทิง และโทรศัพท์ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็น MINI Country Timer ที่ช่วยตรวจจับและแสดงข้อมูลขณะขับขี่บนพื้นถนนที่ท้าทาย และ MINI Connected ที่เป็นเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวในยามเดินทาง แสดงพิกัดของรถ ดูการจราจร ซึ่งสามารถเชื่อมกับสมาร์ทโฟน
MINI Logo Projection มินิ คันทรีแมน โฉมใหม่ยังมาพร้อมไฟ LED Welcome Light ซึ่งแสงไฟส่องจากใต้กระจกมองข้างฝั่งคนขับ ฉายโลโก้มินิบนพื้นทุกครั้งที่เปิดประตูเพื่อเริ่มต้นการเดินทางและเมื่อปิดประตูล็อกรถ
Picnic Bench บริเวณช่องเก็บสัมภาระด้านท้ายของมินิ คันทรีแมน โฉมใหม่ มี MINI Picnic Bench ซึ่งสามารถกางออกเป็นที่นั่งปิกนิกสำหรับสองคนได้
Automatic operation of tailgate/Comfort access system with easy opener function
ฝากระโปรงท้าย สามารถควบคุมการเปิดและปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้าเพียงใช้เท้าไปจ่อที่บริเวณใต้กันชนท้ายเมื่อมีกุญแจรถอยู่กับตัวเท่านั้น หรือสามารถเปิดด้วยปุ่มด้านประตูข้างคนขับและปิดด้วยปุ่มที่ฝากระโปรงท้าย
MINI Countryman 2017 กับเครื่องยนต์ที่ให้อารมณ์สนุกทุกการขับขี่
MINI Countryman เจเนอเรชั่นที่ 2 ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังของเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด TwinPower Turbo ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่และการตอบสนองที่ดีขึ้น จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน
MINI Cooper Countryman เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังขับเคลื่อนสูงสุดอยู่ที่ 136 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ 1,400-4,300 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 16 กิโลเมตรต่อลิตร ระดับการปล่อย CO2 เพียง 148 กรัมต่อกิโลเมตร และทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พวงมาลัยหนังแท้แบบมัลติฟังก์ชั่น ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว
MINI Cooper S Countryman และ MINI Cooper S Countryman Hightrim ขับเคลื่อนด้วยเบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ที่มอบกำลังสูงสุดถึง 192 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ที่ 1,350-4,600 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 16 กิโลเมตรต่อลิตร ระดับการปล่อย CO2 อยู่ที่ 143 กรัมต่อกิโลเมตร และทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบสปอร์ต พวงมาลัยหนังแท้แบบสปอร์ตพร้อมมัลติฟังก์ชั่นลาย MINI Yours ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว
ADD STORIES ไปกับ MINI Countryman 2017
การทดสอบมีรถ MINI Countryman ให้ลอง 2 รุ่นคือ MINI Cooper S Countryman และ MINI Cooper Countryman ขับเป็นขบวนตลอดเวลา การใช้ความเร็วจึงไม่มากประมาณ 80 กม./ชม. เส้นทางจาก The Birder's Lodge Farmer's Market ไปร้าน 22ํC cafe เป็นทางขึ้น-ลงเขา แล้วโค้งคดเคี้ยว ระยะทางรวมไป-กลับกว่า 130 กม.
เริ่มต้นการขับขี่
ก็ต้องขอแจ้งเลยว่าผู้ทดสอบไม่เคยได้ลองขับรถยนต์ MINI มาก่อนเลยสักรุ่น
ความรู้สึกแรก.. ขับง่ายดี ควบคุมรถง่ายจัง นี่สินะ go-kart feeling
ด้วยเอกลักษณ์ของทรงรถ MINI ระยะโอเว่อร์แฮงก์ด้านหน้าสั้นมาก ๆ
(นับระยะตั้งแต่ปลายกันชนหน้าถึงล้อหน้า)
สงสัยใช่ไหมครับว่าโอเว่อร์แฮงก์หน้าสั้นแล้วดียังไง ? ลองเปรียบเทียบกับการที่เราอุ้มของดูครับ การที่เราจะใช้แรงน้อยและเคลื่อนไหวให้สะดวกต้องอุ้มของให้แนบตัวที่สุด หากลองยื่นแขนออกไป จะใช้แรงเยอะ เคลื่อนไหวยาก จะล้าในเวลาอันสั้น สำหรับรถก็เช่นกัน..
ขึ้น-ลงเขาสำหรับ MINI Countryman ทั้งสองรุ่น ไม่มีปัญหาเลยแม้แต่น้อย จะเร่ง จะแซงได้ไม่มีปัญหา ด้วยแรงบิดมาตั้งแต่รอบต่ำ ๆ ด้วยความกว้างและยาวของระยะฐานล้อ การโยนตัวในห้องโดยสารต่ำมาก ก่อนหน้านี้ MINI ได้รับฟีดแบ็คจากลูกค้าเรื่องความกระด้าง แต่บอกเลย MINI Countryman 2017 มีการปรับปรุงในเรื่องนี้อย่างมาก นุ่มนวลใช้งานทั่วไปได้สบาย
ช่วงหนึ่งของเส้นทางมีการวิ่งเส้นออฟโรด ด้วยสมรรถนะก็ผ่านไปได้สบาย ๆ แต่จากสเปคที่ขายไทยก็ขอแนะนำให้วิ่งทางลูกรังก็พอ รุ่นที่เหมาะกับออฟโรดจริง รุ่นย่อย All4 กับขับเคลื่อน 4 ล้อครับ และยังไม่มีกำหนดเข้าจำหน่ายในไทย
ในรุ่นย่อย Cooper S ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบมีความแรงพอสมควร
เหยียบแล้วพุ่ง พวงมาลัยจะหนักกว่า ช่วงล่างก็เซตแข็งแบบสปอร์ต
ส่วนตัวผู้ทดสอบชื่นชอบรุ่น Cooper ที่คอนโทรลง่าย นุ่มนวลในความเร็วต่ำ
สมรรถนะอยากแซงก็สบาย ดูลงตัวกว่าสงสัยใช่ไหมครับว่าโอเว่อร์แฮงก์หน้าสั้นแล้วดียังไง ? ลองเปรียบเทียบกับการที่เราอุ้มของดูครับ การที่เราจะใช้แรงน้อยและเคลื่อนไหวให้สะดวกต้องอุ้มของให้แนบตัวที่สุด หากลองยื่นแขนออกไป จะใช้แรงเยอะ เคลื่อนไหวยาก จะล้าในเวลาอันสั้น สำหรับรถก็เช่นกัน..
ขึ้น-ลงเขาสำหรับ MINI Countryman ทั้งสองรุ่น ไม่มีปัญหาเลยแม้แต่น้อย จะเร่ง จะแซงได้ไม่มีปัญหา ด้วยแรงบิดมาตั้งแต่รอบต่ำ ๆ ด้วยความกว้างและยาวของระยะฐานล้อ การโยนตัวในห้องโดยสารต่ำมาก ก่อนหน้านี้ MINI ได้รับฟีดแบ็คจากลูกค้าเรื่องความกระด้าง แต่บอกเลย MINI Countryman 2017 มีการปรับปรุงในเรื่องนี้อย่างมาก นุ่มนวลใช้งานทั่วไปได้สบาย
ช่วงหนึ่งของเส้นทางมีการวิ่งเส้นออฟโรด ด้วยสมรรถนะก็ผ่านไปได้สบาย ๆ แต่จากสเปคที่ขายไทยก็ขอแนะนำให้วิ่งทางลูกรังก็พอ รุ่นที่เหมาะกับออฟโรดจริง รุ่นย่อย All4 กับขับเคลื่อน 4 ล้อครับ และยังไม่มีกำหนดเข้าจำหน่ายในไทย
ระยะเวลากว่า 5 ชม. ขับลัดเลาะโค้ง ขึ้นลง-เขา ความเหนื่อยล้าของการขับรถต่ำมาก ลูกเล่นในรถและดีไซน์ดึงดูดให้สัมผัสและอยากขับนานกว่านี้ด้วยซ้ำไป
จบการทดสอบทริปนี้ ผู้เขียนก็ได้ ADD STORIES อันน่าประทับใจกับ MINI Countryman 2017 ไปเรียบร้อย รถมันช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน และความรู้สึกนี้ก็คิดว่าไม่มีรถรุ่นไหนให้เราได้อีกนอกจาก MINI
สุดท้าย MINI Countryman 2017 ก็จะประกาศราคา พร้อมจำหน่ายในงาน Motor Show ที่จะเริ่มในวันที่ 29 มีนาคม 2560 ใครที่สนใจก็สามารถไปเยี่ยมชมรถคันจริงได้
ขอขอบคุณ มินิ ประเทศไทย สำหรับกิจกรรม ADD STORIES ไปกับ The ALL-New MINI Countryman 2017 Exclusive Preview ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ