ถ้าต้องขับรถทางไกล เจอทั้งรถติดและความอ่อนเพลียจากการเดินทาง อยากให้ทุกคนพกอาหารแก้ง่วงตอนขับรถไว้บ้าง เพื่อป้องกันอาการหลับใน
สำหรับคนที่มีแพลนจะต้องขับรถไกล ๆ ไปไหนสักแห่ง แล้วกลัวจะเจอกับสภาวะง่วง อ่อนเพลีย หรือขับไปเจอรถติด ๆ แล้วเกิดหิวขึ้นมา อยากลองหาอาหารแก้ง่วงตอนขับรถพกติดกระเป๋าไว้บ้างไหมคะ เราจะได้ขับรถทางไกลกันอย่างสบายใจหายห่วง เพราะอาหารต่อไปนี้ไม่ได้ช่วยคลายหิวให้ท้องเราได้เท่านั้น แต่ยังช่วยปลุกให้เราสดชื่น ตื่นจากความง่วงงุนขณะขับรถได้อีกต่างหาก
1. น้ำเปล่า
สำหรับคนที่รู้ตัวว่าต้องขับรถทางไกลและใช้เวลานานแน่ ๆ อยากให้พกน้ำเปล่าติดไว้สักขวดค่ะ เพราะการจิบน้ำเปล่าอยู่เรื่อย ๆ จะช่วยให้ระดับออกซิเจนในเลือดเพิ่มขึ้น ร่างกายเราก็จะรู้สึกตื่นตัวได้ทันที และทางที่ดีควรดื่มน้ำอุณหภูมิห้องนะคะ เพื่อให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ในระบบไหลเวียนเลือดได้ทันที ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าได้ดีเลยล่ะ
2. กาแฟ
แน่นอนว่าคาเฟอีนเป็นสิ่งที่ช่วยให้ร่างกายตื่นตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นก่อนออกเดินทางก็ชงกาแฟใส่ขวดเก็บความร้อนแล้วพกติดรถไปด้วยดีกว่า ในระหว่างทางก็จิบกาแฟสลับกับน้ำเปล่าไปเรื่อย ๆ ให้คาเฟอีนซึมเข้าไปในเลือด ป้องกันอาการง่วงงุนที่อาจเกิดขึ้น อีกทั้งการที่เราดื่มน้ำไปขนาดนี้ ก็อาจทำให้เรารู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยจนต้องแวะเข้าห้องน้ำเรื่อย ๆ ถือเป็นการพักคน พักรถไปในตัวด้วยเนอะ
3. หมากฝรั่งรสมินต์
ในกรณีที่รู้สึกหนักหนังตามาก ๆ ง่วงไม่ไหวแล้ว เคสนี้หมากฝรั่งรสมินต์ช่วยคุณได้นะคะ เพราะการศึกษาจาก Coventry University พบว่า อาสาสมัครที่เคี้ยวหมากฝรั่งรสมินต์จะรู้สึกง่วงนอนน้อยกว่าตอนที่ยังไม่ได้เคี้ยวหมากฝรั่ง แถวยังรู้สึกสดชื่นมากขึ้นหลังจากเคี้ยวหมากฝรั่งรสมินต์อีกด้วย ทั้งนี้ก็เพราะว่ามินต์เป็นสมุนไพรรสเย็น ที่ช่วยปลุกความสดชื่นให้ร่างกายได้ไม่น้อย อีกทั้งอากัปกิริยาของเราในการเคี้ยวหมากฝรั่งก็ยังจะช่วยให้โลหิตไหลเวียนไปเลี้ยงที่สมองมากขึ้น ช่วยเพิ่มออกซิเจนสู่สมอง ทำให้สมองแล่น เกิดความกระฉับกระเฉงตื่นตัวได้ทันที
4. ช็อกโกแลต
อย่าลืมว่าในช็อกโกแลตจะมีคาเฟอีนผสมอยู่ ในปริมาณที่มากพอจะปลุกให้ร่างกายตื่นได้เลยทีเดียว โดยเฉพาะดาร์กช็อกโกแลตหรือช็อกโกแลตที่มีผงโกโก้ผสมอยู่กว่า 70% ดังนั้นนี่ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ควรพกติดกระเป๋าไว้ในยามขับรถ ง่วงเมื่อไรก็หยิบช็อกโกแลตมาเคี้ยวแก้ง่วงได้เลย
5. อัลมอนด์
อัลมอนด์เป็นของว่างที่นอกจากจะมีโปรตีนสูงแล้ว ก็ยังมีกรดไขมันชนิดดีต่อร่างกายอีกพอสมควร ซึ่งสองสิ่งนี้นี่ล่ะค่ะที่จะช่วยให้ร่างกายของเรามีพลังงานไปได้ยาว ๆ และก็เช่นเดิม การเคี้ยวถั่วอัลมอนด์เพลิน ๆ ยังช่วยเพิ่มออกซิเจนให้สมอง ทบทวีความตื่นตัวให้ร่างกายคูณสองไปเลย
6. ป๊อปคอร์น
ถ้าไม่ชอบกินถั่วจะเปลี่ยนมาพกป๊อปคอร์นติดรถแทนก็ได้ เพราะป๊อปคอร์นเองก็มีไฟเบอร์สูง กินเล่น ๆ แต่อิ่มท้องได้จริงในปริมาณแคลอรีที่น่าคบอีกต่างหาก และแน่นอนว่าป๊อปคอร์นจะทำให้เราอิ่มแบบเบา ๆ ท้อง แถมยังให้โปรตีนและวิตามินสำหรับเติมพลังงานให้เราได้อีกด้วย หมดห่วงเรื่องหนังท้องตึงหนังตาหย่อนระหว่างขับรถทางไกลได้เลย
7. ผลไม้รสเปรี้ยว
เตรียมจัดผลไม้รสเปรี้ยวอย่างมะม่วงเปรี้ยว มะขาม สับปะรด มะเฟือง หรือส้มรสเปรี้ยวติดรถไว้ ผลไม้รสเปรี้ยวเหล่านี้จะกระตุ้นประสาทของเราให้ตื่น และเพิ่มความสดชื่นให้ร่างกายได้
8. ไข่ต้ม
ไข่เป็นอาหารที่เปี่ยมไปด้วยโปรตีน สารสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายมีพลังงานในการทำกิจกรรมต่าง ๆ อีกทั้งไข่ยังเปี่ยมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ โดยเฉพาะโคลีน (Choline) สารที่ช่วยกระตุ้นเซลล์สมองให้ตื่นตัว ฉะนั้นจึงสามารถพูดได้เต็มปากว่า ไข่เป็นอาหารแก้ง่วงตอนขับรถก็ได้ แก้หิวตอนรถติดยิ่งเข้าท่ากันไปใหญ่
อ้อ ! แต่แนะนำให้ต้มไข่ให้สุกทั่วทั้งลูก เพื่อให้ไข่ต้มอยู่ได้นานขึ้นโดยไม่บูดไม่เสีย และปอกเปลือกให้เรียบร้อยพร้อมรับประทาน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนกินก็อย่าลืมดมกลิ่นสักหน่อยว่าไข่ต้มเรายังกินได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวลนะคะ
9. น้ำแข็ง
สำหรับคนที่เคยขับรถทางไกลแล้วง่วงหนักมาก รอบนี้เราจะแก้ตัวใหม่ด้วยการพกกระติกน้ำแข็งเล็ก ๆ สักใบ หรือแก้วเก็บความเย็นขนาดใหญ่บรรจุน้ำแข็งไปด้วย ถ้าขับรถไปแล้วจู่ ๆ รู้สึกง่วงขึ้นมา แนะนำให้หยิบน้ำแข็งมาอมไว้ในปากสักพัก เพื่อให้ความเย็นกระจายไปปลุกความสดชื่นยังเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย แก้ง่วงในระหว่างขับรถได้ชะงัด หรือจะพกเครื่องดื่มแช่ในกระติกน้ำแข็งไปด้วย ถ้ารู้สึกง่วงขึ้นมาเมื่อไรก็หยิบขึ้นมาดื่มเติมความสดชื่นได้เหมือนกัน
นอกจากจะเตรียมพร้อมในเรื่องรถ เรื่องเส้นทาง และความพร้อมของร่างกายแล้ว อาหารแก้ง่วงตอนขับรถ 9 อย่างนี้ก็อยากให้ทุกคนสนใจพกติดรถไปด้วยนะคะ เมื่อง่วง เมื่อหิว จะได้มีของกินคลายง่วง คลายหิวได้ทันที และสุดท้ายนี้อยากฝากวิธีแก้ง่วง ป้องกันหลับในขณะขับรถไว้ให้ทุกคนด้วย เดินทางโดยสวัสดิภาพ ถึงที่หมายโดยปลอดภัยนะคะ :)
- วิธีแก้ง่วง ป้องกันหลับในขณะขับรถ ก่อนเกิดอุบัติเหตุ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
symptomfind
wikihow
thedailymeal
health
สำหรับคนที่มีแพลนจะต้องขับรถไกล ๆ ไปไหนสักแห่ง แล้วกลัวจะเจอกับสภาวะง่วง อ่อนเพลีย หรือขับไปเจอรถติด ๆ แล้วเกิดหิวขึ้นมา อยากลองหาอาหารแก้ง่วงตอนขับรถพกติดกระเป๋าไว้บ้างไหมคะ เราจะได้ขับรถทางไกลกันอย่างสบายใจหายห่วง เพราะอาหารต่อไปนี้ไม่ได้ช่วยคลายหิวให้ท้องเราได้เท่านั้น แต่ยังช่วยปลุกให้เราสดชื่น ตื่นจากความง่วงงุนขณะขับรถได้อีกต่างหาก
1. น้ำเปล่า
สำหรับคนที่รู้ตัวว่าต้องขับรถทางไกลและใช้เวลานานแน่ ๆ อยากให้พกน้ำเปล่าติดไว้สักขวดค่ะ เพราะการจิบน้ำเปล่าอยู่เรื่อย ๆ จะช่วยให้ระดับออกซิเจนในเลือดเพิ่มขึ้น ร่างกายเราก็จะรู้สึกตื่นตัวได้ทันที และทางที่ดีควรดื่มน้ำอุณหภูมิห้องนะคะ เพื่อให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ในระบบไหลเวียนเลือดได้ทันที ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าได้ดีเลยล่ะ
แน่นอนว่าคาเฟอีนเป็นสิ่งที่ช่วยให้ร่างกายตื่นตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นก่อนออกเดินทางก็ชงกาแฟใส่ขวดเก็บความร้อนแล้วพกติดรถไปด้วยดีกว่า ในระหว่างทางก็จิบกาแฟสลับกับน้ำเปล่าไปเรื่อย ๆ ให้คาเฟอีนซึมเข้าไปในเลือด ป้องกันอาการง่วงงุนที่อาจเกิดขึ้น อีกทั้งการที่เราดื่มน้ำไปขนาดนี้ ก็อาจทำให้เรารู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยจนต้องแวะเข้าห้องน้ำเรื่อย ๆ ถือเป็นการพักคน พักรถไปในตัวด้วยเนอะ
ในกรณีที่รู้สึกหนักหนังตามาก ๆ ง่วงไม่ไหวแล้ว เคสนี้หมากฝรั่งรสมินต์ช่วยคุณได้นะคะ เพราะการศึกษาจาก Coventry University พบว่า อาสาสมัครที่เคี้ยวหมากฝรั่งรสมินต์จะรู้สึกง่วงนอนน้อยกว่าตอนที่ยังไม่ได้เคี้ยวหมากฝรั่ง แถวยังรู้สึกสดชื่นมากขึ้นหลังจากเคี้ยวหมากฝรั่งรสมินต์อีกด้วย ทั้งนี้ก็เพราะว่ามินต์เป็นสมุนไพรรสเย็น ที่ช่วยปลุกความสดชื่นให้ร่างกายได้ไม่น้อย อีกทั้งอากัปกิริยาของเราในการเคี้ยวหมากฝรั่งก็ยังจะช่วยให้โลหิตไหลเวียนไปเลี้ยงที่สมองมากขึ้น ช่วยเพิ่มออกซิเจนสู่สมอง ทำให้สมองแล่น เกิดความกระฉับกระเฉงตื่นตัวได้ทันที
อย่าลืมว่าในช็อกโกแลตจะมีคาเฟอีนผสมอยู่ ในปริมาณที่มากพอจะปลุกให้ร่างกายตื่นได้เลยทีเดียว โดยเฉพาะดาร์กช็อกโกแลตหรือช็อกโกแลตที่มีผงโกโก้ผสมอยู่กว่า 70% ดังนั้นนี่ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ควรพกติดกระเป๋าไว้ในยามขับรถ ง่วงเมื่อไรก็หยิบช็อกโกแลตมาเคี้ยวแก้ง่วงได้เลย
5. อัลมอนด์
อัลมอนด์เป็นของว่างที่นอกจากจะมีโปรตีนสูงแล้ว ก็ยังมีกรดไขมันชนิดดีต่อร่างกายอีกพอสมควร ซึ่งสองสิ่งนี้นี่ล่ะค่ะที่จะช่วยให้ร่างกายของเรามีพลังงานไปได้ยาว ๆ และก็เช่นเดิม การเคี้ยวถั่วอัลมอนด์เพลิน ๆ ยังช่วยเพิ่มออกซิเจนให้สมอง ทบทวีความตื่นตัวให้ร่างกายคูณสองไปเลย
6. ป๊อปคอร์น
ถ้าไม่ชอบกินถั่วจะเปลี่ยนมาพกป๊อปคอร์นติดรถแทนก็ได้ เพราะป๊อปคอร์นเองก็มีไฟเบอร์สูง กินเล่น ๆ แต่อิ่มท้องได้จริงในปริมาณแคลอรีที่น่าคบอีกต่างหาก และแน่นอนว่าป๊อปคอร์นจะทำให้เราอิ่มแบบเบา ๆ ท้อง แถมยังให้โปรตีนและวิตามินสำหรับเติมพลังงานให้เราได้อีกด้วย หมดห่วงเรื่องหนังท้องตึงหนังตาหย่อนระหว่างขับรถทางไกลได้เลย
7. ผลไม้รสเปรี้ยว
เตรียมจัดผลไม้รสเปรี้ยวอย่างมะม่วงเปรี้ยว มะขาม สับปะรด มะเฟือง หรือส้มรสเปรี้ยวติดรถไว้ ผลไม้รสเปรี้ยวเหล่านี้จะกระตุ้นประสาทของเราให้ตื่น และเพิ่มความสดชื่นให้ร่างกายได้
8. ไข่ต้ม
ไข่เป็นอาหารที่เปี่ยมไปด้วยโปรตีน สารสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายมีพลังงานในการทำกิจกรรมต่าง ๆ อีกทั้งไข่ยังเปี่ยมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ โดยเฉพาะโคลีน (Choline) สารที่ช่วยกระตุ้นเซลล์สมองให้ตื่นตัว ฉะนั้นจึงสามารถพูดได้เต็มปากว่า ไข่เป็นอาหารแก้ง่วงตอนขับรถก็ได้ แก้หิวตอนรถติดยิ่งเข้าท่ากันไปใหญ่
อ้อ ! แต่แนะนำให้ต้มไข่ให้สุกทั่วทั้งลูก เพื่อให้ไข่ต้มอยู่ได้นานขึ้นโดยไม่บูดไม่เสีย และปอกเปลือกให้เรียบร้อยพร้อมรับประทาน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนกินก็อย่าลืมดมกลิ่นสักหน่อยว่าไข่ต้มเรายังกินได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวลนะคะ
สำหรับคนที่เคยขับรถทางไกลแล้วง่วงหนักมาก รอบนี้เราจะแก้ตัวใหม่ด้วยการพกกระติกน้ำแข็งเล็ก ๆ สักใบ หรือแก้วเก็บความเย็นขนาดใหญ่บรรจุน้ำแข็งไปด้วย ถ้าขับรถไปแล้วจู่ ๆ รู้สึกง่วงขึ้นมา แนะนำให้หยิบน้ำแข็งมาอมไว้ในปากสักพัก เพื่อให้ความเย็นกระจายไปปลุกความสดชื่นยังเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย แก้ง่วงในระหว่างขับรถได้ชะงัด หรือจะพกเครื่องดื่มแช่ในกระติกน้ำแข็งไปด้วย ถ้ารู้สึกง่วงขึ้นมาเมื่อไรก็หยิบขึ้นมาดื่มเติมความสดชื่นได้เหมือนกัน
นอกจากจะเตรียมพร้อมในเรื่องรถ เรื่องเส้นทาง และความพร้อมของร่างกายแล้ว อาหารแก้ง่วงตอนขับรถ 9 อย่างนี้ก็อยากให้ทุกคนสนใจพกติดรถไปด้วยนะคะ เมื่อง่วง เมื่อหิว จะได้มีของกินคลายง่วง คลายหิวได้ทันที และสุดท้ายนี้อยากฝากวิธีแก้ง่วง ป้องกันหลับในขณะขับรถไว้ให้ทุกคนด้วย เดินทางโดยสวัสดิภาพ ถึงที่หมายโดยปลอดภัยนะคะ :)
- วิธีแก้ง่วง ป้องกันหลับในขณะขับรถ ก่อนเกิดอุบัติเหตุ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
symptomfind
wikihow
thedailymeal
health