Home »
Uncategories »
อาหารต้องห้าม!! สำหรับคนเป็นมะเร็ง อ่านแล้วดีมากๆ โปรดบอกคนที่คุณรัก
อาหารต้องห้าม!! สำหรับคนเป็นมะเร็ง อ่านแล้วดีมากๆ โปรดบอกคนที่คุณรัก
สิ่งเหล่านี้นั้นเป็นความรู้ สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงโรคต่อไปนี้
เพราะเป็นของที่แสดงการตามศาสตร์แพทย์พื้นบ้าน
จึงอยากจะขออนุโมทนาแบ่งปันบุญเป็นมหากุศลอย่างยิ่ง
ด้านล่างมี 10 อาการของผู้ที่กำลังจะเป็นมะเร็ง
อาหารต้องห้ามสำหรับคนป่วยมะเร็ง
1. ลดโปรตีน เช่น โปรตีนจากสัตว์ เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา หมู เห็ด เป็ด
ไก่ โปรตีนจากพืช เช่น เห็ดสดทุกชนิด เต้าหู้ และจำพวกถั่วต่าง ๆ เช่น
ถั่วเขียว ถั่วตำ ถั่วเหลือง ฯลฯ
2. ลดไขมัน ไม่ว่าจะเป็นไขมันพืช หรือไขมันสัตว์ เช่น น้ำมันงา
น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันมะพร้าว ไขมันจากสัตว์ เช่น น้ำมันหมู น้ำมันไก่ นม
เนย กะทิ
3. งดของหมักดอง เช่น กะปิ ปลาร้า เต้าเจียว ผักกาดดอง หน่อไม้ดอง หน่อไม้ปี๊บ น้ำปลา ฯลฯ
4. งดเครื่องบำรุงร่างกาย เช่น ชา กาแฟ โอวัลติน รังนก ซุปไก่สกัด ฯลฯ
5. ควรหลีกเลี่ยงสารนิโคลติน อาหารผสมสี
6. งดผลไม้ เช่น ทุเรียน อโวคาโด มะพร้าวอ่อน สัปปะรด (ผลไม้ที่มีรสหวานจัด)
7. งดผัก เช่น แตงกวา ใบชะพลู
อาหารทานได้สำหรับคนป่วยมะเร็ง
– ควรจะรับประทานจำพวกคาร์โบไฮเดรต เช่น จำพวกข้าวกล้อง เผือก มัน ข้าวโพด ขนมปังโฮลวีท ซึ่งปราศจากผงฟู และเนย
– ควรทาน ผลไม้สด น้ำผัก ผักสดได้แก่ ผักพื้นบ้าน และจำพวกถั่วฝักอ่อน เช่น ถั่วงอก ถั่วฝักยาว ถั่วแขก ถั่วพู ฯลฯ
– ผักสด ผลไม้ ทุกชนิดควรแช่ผงถ่าน 15 นาที (แอนตี้เวตแตทชาโคร์) จะได้ปราศจากเชื้อโรคและสารพิษที่ติดมากับผักและผลไม้
“อาหารสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง” มะเร็งอยู่ได้ดีในสภาวะที่เป็นกรด จึงไม่ให้สร้างภาวะที่เป็นกรดให้กับร่างกาย
อาการโรคมะเร็ง 15 สัญญาณอันตรายแบบนี้ อย่าละเลย
1. เ ต้ า น ม มีการเปลี่ยนแปลง
ก้อนในเต้านมส่วนมากแล้วจะไม่ใช่มะเร็ง แต่หมอก็จะตรวจเช็คอยู่ดู และคุณก็ควรรู้จักการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ด้วย
– ผิวหนังเป็นรอยบุ๋ม หรือดึงรั้ง
– หั ว น ม บุ๋ม
– มีสารคัดหลั่งทาง หั ว น ม
– เกิดรอยแดง หรือ หั ว น ม เปลี่ยนขนาด หรือสีผิวของหน้าอกเปลี่ยนแปลง
เพื่อหาสาเหตุของอาการ
แพทย์ก็จะตรวจร่างกายและถามคำถามเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ
นอกจากนี้ยังอาจมีการทดสอบ อย่างเช่น แมมโมแกรม หรือการตรวจชิ้นเนื้อ
โดยแพทย์จะตัดเอาเนื้อเยื่อชิ้นเล็กๆ ไปทดสอบ
2. อาการบวม
“ผู้หญิงมักจะมีอาการบวมเป็นปกติ รอดูอาการสัก 1-2
สัปดาห์เพื่อดูว่ามันจะหายไปหรือไม่” Dr. Marleen Meyers
แพทย์ด้านเนื้องอกวิทยา ที่ศูนย์การแพทย์ NYU Langone กล่าว
หากอาการไม่ดีขึ้น หรือมันเกิดขึ้นพร้อมกับน้ำหนักลดหรือมี เ ลื อ ด ออก
ควรรีบไปพบแพทย์ อาการท้องอืดอยู่เนืองๆ มักจะบ่งชี้ถึงโรคมะเร็งรังไข่
คุณจึงควรตรวจอุ้งเชิงกรานและตรวจ เ ลื อ ด บ่อยๆ
และตรวจอัลตราซาวน์ในบางที
เพื่อมองหาความผิดปกติที่อาจเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งด้วย Dr. Andersen กล่าว
3. มี เ ลื อ ด ออกระหว่างมีประจำเดือน
ถ้าคุณยังมีประจำเดือนอยู่ให้แจ้งแพทย์ให้ทราบว่าคุณพบ เ ลื อ ด
ออกมาในระหว่างมีรอบเดือน การมี เ ลื อ ด ออกโดยไม่เกี่ยวข้องกับประจำเดือน
อาจมีหลายสาเหตุ ซึ่งอาการนี้แพทย์จะตรวจวินิจฉัยว่าคุณเป็นมะเร็งมดลูก
(หรือมะเร็งในเยื่อบุโพรงมดลูก) หรือไม่
การมี เ ลื อ ด ออกหลังหมดประจำเดือนเป็นเรื่องไม่ปกติ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คโดยด่วน
4. ผิวหนังเปลี่ยนแปลง
การเปลี่ยนแปลงทั้งในเรื่องของขนาด, รูปทรง, และสีสันของขี้แมลงวัน
หรือจุดต่างๆ เป็นสัญญาณของโรคมะเร็งผิวหนังได้
ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจและทดสอบอย่างละเอียด
บางครั้งอาจต้องมีการตรวจชิ้นเนื้อด้วย นี่เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรรอคอย D.
Meyers กล่าว
5. มี เ ลื อ ด ออกมาปะปนกับปัสสาวะหรืออุจจาระ
ควรบอกแพทย์ของคุณหากมี เ ลื อ ด ไหลออกจากร่างกายในส่วนที่มันไม่ควรมี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการมาแล้วมากกว่า 1 หรือ 2 วัน Dr.Meyers กล่าว
อุจจาระปน เ ลื อ ด ออกมาบ่อยครั้งบ่งชี้ว่าเป็นอาการของโรคริดสีดวงทวาร
แต่ก็อาจเป็นอาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ด้วย ส่วนปัสสาวะปน เ ลื อ ด
บ่อยครั้งเป็นสัญญาณแรกเริ่มของมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ หรือมะเร็งที่ไต
นายแพทย์ Herbert Lepor ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินปัสาวะ ใน NYU’s
Langone กล่าว
6. การเปลี่ยนแปลงของต่อมน้ำเหลือง
ต่อมน้ำเหลืองมีขนาดเล็ก ขนาดประมาณเม็ดถั่วกระจายอยู่ทั่วร่างกาย
การเปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่มักเกิดจากการติดเชื้อ แต่โรคมะเร็งบางชนิด
อย่างเช่น มะเร็งเม็ด เ ลื อ ด ขาวและมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
ก็อาจทำให้ต่อมน้ำเหลืองบวมได้เช่นกัน
ควรเข้าพบแพทย์หากคุณพบว่ามีก้อนเนื้อหรือมีอาการบวมที่ใดที่หนึ่งในร่างกาย ที่กินเวลานานเป็นเดือนหรือมากกว่านั้น Dr.Meyers กล่าว
7. ปัญหาการกลืน
อาการกลืนลำบากในบางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลนัก
แต่หากมันเกิดขึ้นบ่อยๆ และร่วมกับมีอาการอาเจียนและน้ำหนักลดแล้ว
ก็ควรเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ
แพทย์จะทำการตรวจหาโรคมะเร็งลำคอและมะเร็งกระเพาะอาหารด้วยตรวจเช็คบริเวณลำคอและการกลืนแป้งแบเรี่ยม
ซึ่งจะต้องดื่มสารพิเศษทึบแสงที่ช่วยให้มองเห็นลำคอได้ชัดขึ้นในระหว่างเอกซเรย์
8. น้ำหนักลดโดยไม่ได้พยายาม
ผู้หญิงส่วนมากอยากให้น้ำหนักลดหายไปเหมือนระเหยไปในอากาศ
แต่การสูญเสียน้ำหนักเป็น 10
ปอนด์หรือมากกว่าโดยไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนอาหารหรือออกกำลังกายเลยนั้น
อาจเป็นสัญญาณของปัญหาได้
การสูญเสียน้ำหนักโดยไม่ได้ตั้งใจส่วนใหญ่แล้วอาจไม่ได้เกิดจากโรคมะเร็ง
Dr.Meyers กล่าว “มันมักจะเกิดจากความเครียดหรือเกิดจากต่อมไทรอยด์
แต่ก็อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งตับอ่อน, มะเร็งกระเพาะอาหาร
และมะเร็งปอดก็เป็นไปได้อีกเช่นกัน”
แพทย์จะทำการทดสอบหลายอย่างเพื่อมองหาสาเหตุ รวมไปถึงการตรวจ เ ลื อ ด และ CT Scan ด้วย
9. อาการแสบร้อนในทรวงอก
การกินอาหารมากเกินไป, ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป และความเครียด
(บางครั้งก็สามอย่างรวมกัน) เป็นต้นเหตุของอาการแสบร้อนในทรวงอกได้ Dr.
Meyers แนะนำให้คุณลองเปลี่ยนพฤติกรรมการกินสัก 1-2
สัปดาห์เพื่อลองดูว่าอาการจะดีขึ้นหรือไม่
แต่หากมันไม่ดีขึ้นเลย ควรปรึกษาแพทย์
เพราะอาการแสบร้อนกลางอกที่ไม่หายขาดหรือเลวร้ายลงอาจหมายถึงมะเร็งกระเพาะอาหาร,
มะเร็งลำคอ หรือมะเร็งรังไข่ได้
10. การเปลี่ยนแปลงภายในช่องปาก
ถ้าคุณสูบบุหรี่ ให้สังเกตฝ้าสีขาวหรือสีแดงอ่อนภายในปาก หรือบนริมฝีปาก
ทั้งสองชนิดเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งช่องปาก
คุณควรปรึกษาแพทย์หรือทันตแพทย์เพื่อเข้ารับการทดสอบและรักษาต่อไป
11. มีไข้
ไข้ที่ไม่ยอมหายและหาสาเหตุไม่ได้อาจหมายถึงโรคมะเร็งเม็ด เ ลื อ ด
ขาวหรือมะเร็ง เ ลื อ ด ชนิดอื่นๆ
แพทย์ของคุณจะตรวจประวัติทางการแพทย์และทำการทดสอบร่างกายเพื่อหาสาเหตุต่อไป
12. ความเมื่อยล้า
ผู้หญิงจำนวนมากรู้สึกเมื่อยล้าเพราะชีวิตมีแต่เรื่องวุ่นวาย แต่หากเป็นความเมื่อยล้าที่ไม่ยอมหายไป นั่นเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ
ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเมื่อยยล้าที่เกิดขึ้นหรือคุณมีอาการอื่นๆ
ข้างเคียงด้วย อย่างเช่น มี เ ลื อ ด ออกมากับอุจจาระ
แพทย์จะสอบถามถึงประวัติการแพทย์ในอดีตและตรวจ เ ลื อ ด เพื่อหาสาเหตุต่อไป
13. อาการไอ
การไอส่วนใหญ่แล้วจะหายไปใน 3-4 สัปดาห์
อย่าละเลยหากอาการไอกินเวลานานกว่านั้น
ยิ่งโดยเฉพาะถ้าคุณสูบบุหรี่หรือหายใจไม่ออก หากไอออกมาเป็น เ ลื อ ด
ให้รีบไปพบแพทย์ การไอแบบนี้ส่วนมากจะเป็นอาการของมะเร็งปอด
14. อาการปวด
โรคมะเร็งไม่ก่อให้เกิดอาการปวด
แต่อาการปวดที่ต่อเนื่องจะเป็นสัญญาณของมะเร็งกระดูก, มะเร็งสมอง
หรือมะเร็งชนิดอื่นๆ ได้
ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับอาการปวดที่หาสาเหตุไม่ได้นี้
ยิ่งโดยเฉพาะหากมีอาการมาเป็นเดือนหรือนานกว่านั้น
15. ปวดท้องและซึมเศร้า
มันเป็นอาการที่หาได้ยาก
แต่หากคุณปวดท้องร่วมกับมีอาการซึมเศร้าด้วยก็อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งตับอ่อนได้
แล้วคุณควรกังวลหรือไม่
ก็ขึ้นอยู่กับว่าในครอบครัวคุณเคยมีคนเป็นมะเร็งตับอ่อนหรือเปล่า
ดังนั้นจึงควรเข้าตรวจเช็คอาการนั่นเอง Dr. Meyers กล่าว
แหล่งอ้างอิง
: bloggang, สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี,
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.),
www.pharmacy.mahidol.ac.th,กลุ่มโลกสมุนไพร,medthai, Dr. Meyers