อยากเล่าเรื่อง พี่สุกิจ มานานแล้ว ขอเล่าหน่อย

“พี่สุกิจ นิสิตวิทยาศาสตร์จุฬาผู้กลับออกมาจากป่า”

สมัยผมเรียนจุฬาฯ ประมาณปี พ.ศ. 2526 เปิดเทอมปี 3 มาปรากฏว่ามีใครไม่รู้หน้าตาแก่กว่าเราหลายปี ผิวกร้านๆ มานั่งเรียนด้วยกับพวกผม หลายคนเลย #เฮ้ยใครวะ

อาจารย์ไม่ได้บอกอะไรว่าเค้าเป็นใคร สุดท้ายนิสิตพวกผมก็ต้องค้นหาคำตอบกันเอง

พวกพี่เค้าคือ รุ่นพี่ที่หยุดเรียนไปในปี 2519 เพื่อเข้าป่าไปร่วมกับกองกำลังคอมมิวนิสต์หลังจากเหตุการณ์ ตุลาคม 2519 (2519 วันนั้นผมยังอยู่แค่ประถม7 ) พวกพี่เค้าคิดว่า น่าจะมีระบอบอื่นที่ดีกว่าระบอบที่ประเทศไทยใช้กันมานมนาน และ อยากเปลี่ยนแปลง

ผมรู้เรื่องพี่เค้าเยอะ เพราะ พี่สุกิจ หนึ่งในพี่หน้าใหม่เป็นคนไม่เครียด(แบบพี่คนอื่นๆ) มานั่งคุยกับผม พี่สุกิจบอกผมว่า “ชูติวพี่หน่อย พี่ลืมไปหมดแล้ว”

ผมรู้แก่ใจว่า ผมติวไม่ได้หรอก ทุกวันนี้ยังลอกการบ้านเพื่อนอยู่เลย

พี่สุกิจพูดต่อไปว่า แล้วพี่จะเล่าให้ฟังว่า ชีวิตในป่าพี่ทำอะไรกันบ้าง ผมบอกว่า พี่เล่าก่อน (เพราะผมติวไม่ได้อยู่แล้วแต่อยากรู้)

ก่อนเล่าต่อ ผมขอเล่าว่า ระหว่างนั้นเป็นช่วงท่านนายกเปรม ข่าวทีวีออกทุกวันว่า มีคนไทยกลับออกมาจากป่า เพื่อเลิกเป็นศัตรูกับรัฐบาลไทย มีฉากสุดฮิตคือ การเข้าแถวมอบ ปื น ให้รัฐบาล พวกเค้าคือ คนที่เคยประกาศเป็นศัตรูกับรัฐบาล หันหน้าเข้าป่าไปร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์
ต่อมา จีนเปลี่ยนแนวทาง หันมาให้การสนับสนุนไทย ยกเลิกการสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์ไทย

และป๋าเปรมเชื่อว่า

ถ้าเป็นศัตรูกันเองแบบนี้ ประเทศพัฒนาไม่ได้ เราต้องอภัยและเปิดรับการกลับมาอยู่ร่วมกันของคนไทย นี่คือที่มาของนโยบาย 66/2523 ที่หลายคนรวมทั้งผมเคยคิดว่า บิ๊กจิ๋วเป็นต้นคิด

พี่สุกิจและพี่ๆอีกหลายคน คือ หนึ่งในคนเหล่านั้น (เด็กรุ่นใหม่ที่อวดอ้างว่ารู้เรื่องปี 2519 บางทีผมอ่านแล้วก็ได้แต่ขำๆ)

พี่สุกิจเล่าถึงความลำบาก ช่วงแรก ทหารปราบปรามคอมมิวนิสต์หนัก ต้องขุดหลุม ต้องดำน้ำหนี ต้องหลบๆซ่อนๆในป่า ชีวิตลำบากมาก คิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อแม่พี่น้อง อยากออกมา ก็ออกไม่ได้เพราะกลัวโดนยิงโดนจับ

จนกระทั่งรัฐบาลให้อภัย และ ให้กลับมา พร้อมทั้งออกนโยบาย #แก้ทุกกติกา ให้กลับมาอยู่ในสังคมได้ มาเริ่มใหม่ได้

พี่สุกิจและเพื่อนๆจึงได้กลับมาเรียนใหม่ จุฬาฯต้องอนุญาตให้กลับมาได้ ห้ามคัดชื่อออกแม้จะหายไปเกือบ 10 ปี และมาเริ่มเรียนต่อ จากบทเรียนที่หายไป ทุกกฏต้องแก้ เพื่อให้คนไทยกลับมารักกัน

ผมรู้จักพี่สุกิจมากขึ้น ผมและใครๆ ก็ไม่ต้องติวอะไรพี่สุกิจเลย เพราะ พวกพี่เค้าเรียนเก่งเองโดยธรรมชาติ ผมนี่ยังเคยขอพี่สุกิจลอกการบ้านเลยด้วย

หลายปีต่อมา ผมเจอพี่สุกิจ พาลูกค้าไปเลี้ยง พี่สุกิจมีชีวิตปรกติที่เผลอๆจะดีกว่าปรกติเสียอีก เพราะโอกาสที่พี่สุกิจได้รับให้กลับมา ต่อเส้นชีวิตที่ขาดหาย

วันนี้ผมแก่พอที่จะคิดได้ว่า หากรัฐบาลท่านนายกรัฐมนตรีพลเอกเปรม ไม่มีจิตใจทีดีงาม คิดแต่จะเข่นคร่าให้ดีบสูญกันไป พี่สุกิจและใครอีกหลายๆคนคงไม่ได้กลับมาเจอหน้าครอบครัวและมีชีวิตที่ดี

ผมไม่รู้ว่า วันนี้พี่สุกิจจะคิดถึงท่านพลเอกเปรมไหม แต่ ผมแก่พอที่จะรู้ว่า ผมดีใจที่ไทยมีท่านนายกเปรม ติณสูลานนท์ครับ

ถ้าพี่สุกิจอ่านเจอผมระลึกถึงพี่นะครับ

ขอบคุณแหล่งที่มา :  Trachoo Kanchanasatitya