วันที่ 31 มีนาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองบังคับการปราบปราม
ได้มีการแถลงผลการจับกุมตัวผู้ต้องหา ตามหมายจับ ศาลจังหวัดนครปฐมที่
397/2555 และ 398/2555 ลงวันที่ 12 ต.ค.55 ประกอบด้วยนายไพฑูรย์ รัตนเจริญ
และนางยุพาวดี รัตนเจริญ สองสามีภรรยา ในฐานความผิด
“ร่วมกันข่มขืนและร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี”
โดยจับกุมได้ที่ห้องเช่าเลขที่ 75/4 หมู่ 6 ตำบลโคกขาม จังหวัดสมุครสาคร
สืบเนื่องจาก น.ส.บี (นามสมมุติ) ซึ่งขณะนั้น อายุ 15 ปี ถูกผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ที่มีศักดิ์เป็นน้าสาวและน้าเขย ล่อลวงหลานสาวแท้ๆของนางยุพาวดีมาจากบ้านพักย่านสายไหม แล้วพามาที่บ้านพักของตัวเองในอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 เดือนตุลาคมปี 2555 จากนั้นทั้งสองคนได้ออกกลอุบายให้ น.ส.บี ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จนเมามายขาดสติ ก่อนที่น้าเขยคือ นายไพฑูรย์ได้ข่มขืน น.ส.บี อย่างรุนแรง โดยนางยุพาวดี น้าสาวช่วยจับตัวหลานสาวไม่ให้ขัดขืน จนสามีสำเร็จความใคร่ จากนั้นวันที่ 9 ตุลาคมผู้ต้องหาพาน.ส.บี กลับมาส่งที่บ้านพัก
ซึ่งน.ส.บี ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ผู้ปกครองฟัง และพาไปร้องที่มูลนิธิปวีณา หงสกุลเพื่อเด็กและสตรี รวมทั้งแจ้งความที่สภ.สามพราน ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไหวตัว หนีไปกบดานที่จังหวัดสมุทรสาคร จนกระทั่งถูกจับกุมได้ หลังหลบหนีคดีมานานกว่า 5 ปี
เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 คนยังให้การปฏิเสธ โดยนางยุพาวดีระบุว่า น.ส.บี เป็นบุตรสาวพี่ชายแท้ๆ ตนและสามี ไม่ได้กระทำตามที่ถูกกล่าวหา แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ โดยได้แจ้งข้อหา ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆโดยผู้อื่นผู้นั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร
สืบเนื่องจาก น.ส.บี (นามสมมุติ) ซึ่งขณะนั้น อายุ 15 ปี ถูกผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ที่มีศักดิ์เป็นน้าสาวและน้าเขย ล่อลวงหลานสาวแท้ๆของนางยุพาวดีมาจากบ้านพักย่านสายไหม แล้วพามาที่บ้านพักของตัวเองในอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 เดือนตุลาคมปี 2555 จากนั้นทั้งสองคนได้ออกกลอุบายให้ น.ส.บี ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จนเมามายขาดสติ ก่อนที่น้าเขยคือ นายไพฑูรย์ได้ข่มขืน น.ส.บี อย่างรุนแรง โดยนางยุพาวดี น้าสาวช่วยจับตัวหลานสาวไม่ให้ขัดขืน จนสามีสำเร็จความใคร่ จากนั้นวันที่ 9 ตุลาคมผู้ต้องหาพาน.ส.บี กลับมาส่งที่บ้านพัก
ซึ่งน.ส.บี ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ผู้ปกครองฟัง และพาไปร้องที่มูลนิธิปวีณา หงสกุลเพื่อเด็กและสตรี รวมทั้งแจ้งความที่สภ.สามพราน ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไหวตัว หนีไปกบดานที่จังหวัดสมุทรสาคร จนกระทั่งถูกจับกุมได้ หลังหลบหนีคดีมานานกว่า 5 ปี
เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 คนยังให้การปฏิเสธ โดยนางยุพาวดีระบุว่า น.ส.บี เป็นบุตรสาวพี่ชายแท้ๆ ตนและสามี ไม่ได้กระทำตามที่ถูกกล่าวหา แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ โดยได้แจ้งข้อหา ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆโดยผู้อื่นผู้นั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร