ที่บริเวณฝายกักเก็บน้ำคลองน้ำไหล ริมถนนสายหมู่บ้านคลองน้ำไหลใต้หมู่ 3 – บ้านท่าข้าม หมู่ 5 ด้านล่างซึ่งเป็นลำคลองน้ำคลองพลู เมื่อเดินไปตามลำคลองประมาณ 500 เมตร พบหม้อดินถูกปิดด้วยผ้ายันต์สีแดงมีอักขระลงยันต์เขมร มีตัวหนังสืออักขระคล้ายเลขไทย เป็นเลข ๑๕ และ ๙๓ ผูกด้วยสายสายสิญจน์สีขาว หม้อมีขนาดความกว้างของปากหม้อ 15 เซนติเมตร สภาพเก่ามากๆ อยู่บนเนินทรายริมลำคลองน้ำ จึงนำขึ้นมาและเดินทางไปที่วัดคลองน้ำไหลใต้ เพื่อให้พระครูมงคลวัชรราทร เจ้าอาวาสวัดคลองน้ำไหลใต้ เจ้าคณะตำบลคลองลานพัฒนา อ.คลองลาน ทำพิธีเปิดดูเมื่อเวลา 11.40 น.
เมื่อแกะสายสิญจน์และผ้ายันต์สีแดงมีอักขระลงยันต์เขมร ออกปรากฏว่าเหมือนมีลมพัดวูบบรรยากาศชวนขนลุก ซึ่งภายในหม้อดินพบ หุ่นปั้นคนที่ปั้นด้วยดินน้ำมัน เป็นหุ่นปั้นคน 4 คน คนโต 2 คน และเด็ก 2 คน โดยมีเศษกระดูกป่นผสมอยู่ในตัวหุ่นปั้นด้วยพร้อมกับมีน้ำมันพรายทาไว้มีกลิ่นอ่อนๆ เรียงสลับทับกันอยู่ มีหญ้าแฝก ด้ายสีดำทับบนตัวหุ่น
ทั้งนี้พระครูมงคลวัชรราทร กล่าวว่า น่าจะเป็นฝีมือผู้มีวิชาอาคมทางเขมรใช้มนต์ดำ กักขังวิญญาณ ของคนในครอบครัวหนึ่ง ซึ่งอาตมาก็ไม่ทราบว่าเป็นครอบครัวใด ไม่ให้ไปผุดไปเกิด อาจมีการโกรธแค้นจึงทำเวทมนต์ใส่ จนครอบครัวบ้านแตกด้วย โชคดีวิญญาณที่หมอดินนี้ถูกพบ อาจจะดลใจให้คนไปบอกจึงไปนำมาแก้ไขได้ทัน
โดย นายสมคิด ฝอยทองตะคุ อายุ 48 ปี ผู้พบหม้อดินเป็นคนแรกกล่าวว่า ขณะที่กำลังเก็บผักขี้เหล็กอยู่ริมคลองน้ำคลองพูล ซึ่งอยู่ติดกับข้างที่นาของตนอง ก็พบเด็กชายในหมู่บ้านคลองน้ำไหลใต้ 3 คน กำลังเดินเหมือนกำลังหาอะไรกันอยู่ จึงถามว่ามาทำอะไรกัน เด็กทั้งหมดพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เมื่อคืนก่อนช่วงหัวค่ำวันที่ 29 มีนาคม 2560 ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์เที่ยวและมาจอดริมถนนตรงหัวฝายกักน้ำ ขณะนั่งเล่นคุยกัน ก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของผู้หญิง ดังลั่นทั่วบริเวณ จึงรีบหนีกลับบ้าน ทั้งหมดสงสัยจึงมาเดินตามหาเสียงดังกล่าวก็ไม่พบ แต่กลับพบแต่หม้อดินดังกล่าว
