Home »
Uncategories »
เฉาก๊วย..แก้ร้อนใน ขับเสมหะ ช่วยลดความดัน และสรรพคุณอื่นๆอีกมาก
เฉาก๊วย..แก้ร้อนใน ขับเสมหะ ช่วยลดความดัน และสรรพคุณอื่นๆอีกมาก
เฉาก๊วย ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่หลาย ๆ คนชื่นชอบกันนะคะ
เนื่องจากหาทานง่าย และราคาถูก
แต่รู้ไหมว่านอกจากความอร่อยที่ได้จากเฉาก๊วยแล้ว
เฉาก๊วยยังมีประโยชน์และสรรพคุณอีกมากมายที่หลายคนยังไม่รู้
วันนี้ทางเพจเราจะพาไปรู้จักกับเฉาก๊วยให้มากขึ้นค่ะ
เฉาก๊วย
• วงศ์ : Labiatae วงศ์เดียวกับสะระแหน่/โหระพา/แมงลัก
• วิทยาศาสตร์ :
– Mesona chinensis Bentham
– Mesona elegans Hayata
– Mesona procumbens Hemsley
• ชื่อท้องถิ่นไทย : เฉาก๊วย
• ชื่อท้องถิ่นจีน:
– เหรียนฝ่นฉ่าว
– เซียนฉ่าว
– เซียนหยั้นตุ้ง
• ถิ่นกำเนิด : ประเทศจีนตอนใต้ แถบมณฑลกวางตุ้ง กวางสี และยูนาน ในธรรมชาติชอบขึ้นแซมกับกอหญ้าบริเวณที่ชื้นตามเชิงเขาหรือลำห้วย
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น
เฉาก๊วย
เป็นไม้ล้มลุก มีลำต้นหรือเถาเป็นแบบกึ่งเลื้อย ลำต้นมีขนาดเล็ก
เป็นเหลี่ยม คล้ายต้นสะระแหน่ ลำต้นเปราะหักง่าย ต้นอ่อนมีสีเขียว
ต้นแก่มีสีน้ำตาล กิ่งแตกแขนงออกตามข้อของลำต้น ช่วงห่างระหว่างข้อ 3-5
เซนติเมตร ลำต้น และกิ่งทอดยาวคลุมตามดินได้ 50 – 120 เซนติเมตร
ใบ
ใบเฉาก๊วยแทงออกเป็นใบเดี่ยว
แตกออกเป็นคู่ๆตรงกันข้ามบนกิ่ง คือ มี 2 ใบ /ข้อ มีก้านใบมีสีขาว
ยาวประมาณ 1 – 1.5 เซนติเมตร ใบรูปใบหอก คล้ายใบสะระแหน่
ปลายใบแหลมโคนใบสอบ ขอบใบหยักเป็นฟันเลื้อย แผ่นใบเป็นร่องตามเส้นใบ
ขนาดใบยาว 2-5 เซนติเมตร กว้าง 0.8-3 เซนติเมตร ใบมีสีเขียวสดถึงเขียวเข้ม
และมีขนขนาดเล็กปกคลุม เมื่อจับแผ่นใบจะรู้สึกสากมือ
และหากขยี้ใบจะมีลักษณะเป็นเมือกลื่น
ดอก
ดอกเฉาก๊วยแทงออกเป็นช่อ
คล้ายกับดอกแมงลักหรือโหระพา มีช่อดอกยาว 5-10 เซนติเมตร
แต่ละช่อมีดอกจำนวนมาก แต่ละดอกมีก้านดอกยาวประมาณ 3 มิลลิเมตร
กลีบดอกมีสีขาวอมม่วงอ่อน ยาวประมาณ 2.5 มิลลิเมตร
ถัดมาด้านในเป็นเกสรตัวผู้ 1 อัน และเกสรตัวเมีย 1 อัน
ส่วนเมล็ดมีขนาดเล็กสีดำอมน้ำตาล มีลักษณะรูปไข่
ผล และเมล็ด
เมล็ดเฉาก๊วยมีขนาดเล็กสีดำอมน้ำตาล มีลักษณะรูปไข่
ขั้นตอนการทำเฉาก๊วย
– นำต้นเฉาก๊วยแห้งมาล้างทำความสะอาด
– นำต้นเฉาก๊วยลงต้มในน้ำ อัตราส่วนเฉาก๊วยกับน้ำที่ 1:25-50
– ต้มเคี่ยวน้ำเฉาก๊วยนาน 3-5 ชั่วโมง จนน้ำเฉาก๊วยมีลักษณะข้นเป็นเมือก และมีสีดำใส
– ทำตักต้นเฉาก๊วยขึ้นมา แล้วใช้มือขยำหรือนวดต้นเฉาก๊วย เพื่อให้เมือกหลุดออกลงหม้อต้ม
– แยกกากต้นเฉาก๊วยออกจากน้ำต้ม และตั้งทิ้งไว้สักพักเพื่อให้ตะกอน และดินตกลงด้านล่างหม้อ
– ทำการกรองน้ำต้มเฉาก๊วยด้วยผ้าขาวบาง 1-2 ครั้ง โดยค่อยๆเทเบาๆ เพื่อไม่ให้ตะกอนด้านล่างฟุ้งขึ้นมา
– นำน้ำต้มเฉาก๊วยที่มีลักษณะเหนียวข้นตั้งทิ้งไว้ให้เย็นจนได้เฉาก๊วยที่มีลักษณะก้อนอ่อนนุ่ม
– หากต้องการความเหนียว และแข็งที่มากขึ้น ให้เติมโซเดียมไบคาร์บอเนตก่อนนำไปต้มอีกครั้งหรือใส่ในขณะที่น้ำเฉาก๊วยยังร้อน
–
หากต้องการเพิ่มความแข็ง
และเหนียวขึ้นมาอีกให้นำแป้งท้าวยายหม่อมหรือแป้งอ่อน เช่น
แป้งมันสำปะหลังลงต้มผสม โดยนำน้ำต้มที่กรองเสร็จแล้วลงต้มผสมกับแป้งนาน 15
นาที พร้อมกับกวนอย่างต่อ
เนื่อง จนได้เมือกเหนียวดำ และเป็นมันเงา ก่อนเทใส่แม่พิมพ์หรือตั้งให้จับตัวเป็นก้อนในหม้อการทำน้ำเฉาก๊วย
การทำน้ำเฉาก๊วย
ใส่น้ำลงไปในหม้อต้มต้นเฉาก๊วยแห้งให้มากขึ้นกว่าเดิมประมาณ
1-2 เท่า และต้มแค่พอให้ได้น้ำเฉาก๊วยสีดำใส ๆ
ไม่ต้องเคี่ยวจนน้ำต้มข้นเป็นเมือกเหมือนตอนทำเนื้อเฉาก๊วย
เมื่อได้น้ำเฉาก๊วยแล้วก็กรอแยกกาก
เอาแต่น้ำสีดำมาต้มกับน้ำตาลทรายตามระดับความหวานที่ต้องการ
สรรพคุณของเฉาก๊วย
– ลดอาการกล้ามเนื้ออักเสบ
– ช่วยลดอาการเบาหวาน
– น้ำต้มเฉาก๊วย และเฉาก๊วยมีรสเย็น ช่วยทำให้ชุ่มคอ ลดอาการคอแห้ง
– แก้คลื่นไส้
– บรรเทาอาการเบื่ออาหาร
– ช่วยลดไข้
– ช่วยลดความดันเลือด ป้องกันโรคหลอดเลือดในสมองตีบหรือแตก
– แก้ร้อนใน
– ช่วยป้องกันโรคตับอักเสบ
– แก้ปวดท้อง มวนท้อง
– ช่วยขับเสมหะ
– ช่วยแก้อาการข้ออักเสบ
ประโยชน์
– ทำเป็นขนมหวานหรือน้ำสมุนไพรดื่มแก้กระหาย
– ใช้ปลูกเป็นพืชคลุมดิน ช่วยป้องกันการกัดเซาะหน้าดิน
คุณค่าทางโภชนาการใบเฉาก๊วย ( 100 กรัมแห้ง)
– ความชื้น 8.99%
– คาร์โบไฮเดรต 44.95%
– โปรตีน 8.33%
– ไขมัน 0.39%
– เถ้า 37.34%
– เส้นใย 24.06%
เฉาก๊วยที่เราทานกันบ่อยนั้น
มีประโยชน์และสรรพคุณอย่างมาก แถมยังเป็นที่ถูกอกถูกใจหลายๆคน
แต่ถ้าจะให้ดีเวลากินเฉาก๊วยก็อย่าเติมน้ำเชื่อมหรือน้ำตาลเยอะเกินไปนะคะ
เดี่ยวน้ำหนักจะพุ่งเอา แล้วจะมาบ่นทีหลังไม่ได้นะคะ
แหล่งที่มา : kaijeaw.com