วิธีประหยัดไฟฟ้า ทำอย่างไรให้ประหยัดไฟช่วงหน้าร้อน มาดู วิธีประหยัดไฟฟ้าภายในบ้าน ลดภาระค่าใช้จ่ายทุกสิ้นเดือน
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกหลายชิ้นในบ้านจำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งนั้น
ยิ่งบ้านไหนมีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะหน่อยก็ยิ่งทำให้ค่าไฟฟ้าของบ้านคุณพุ่งกระฉูด
ดังนั้นการใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านให้ถูกวิธีจะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยประหยัดไฟและลดค่าใช้จ่ายของคุณลงได้
แถมยังช่วยลดโลกร้อนอีกด้วย หลายคนที่กำลังมองหาวิธีประหยัดไฟกันอยู่
กระปุกดอทคอมมีวิธีดี ๆ เหล่านั้นมาฝากกันแล้วจ้า ลองไปดูวิธีประหยัดไฟ
เพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้ากันเลยดีกว่า ว่ามีวิธีอะไรบ้าง ..
สายไฟฟ้า
- สายไฟฟ้าเก่าหรือหมดอายุใช้งาน สังเกตได้จากฉนวนจะแตกหรือแห้งกรอบบวม
- ฉนวนสายไฟชำรุด
อาจเกิดจากหนูหรือแมลงกัดแทะ หรือวางของหนักทับ
เดินสายไฟใกล้แหล่งความร้อน ถูกของมีคมบาด
- จุดต่อสายไฟต้องให้แน่น
หน้าสัมผัสให้ดี พันฉนวนให้เรียบร้อยขนาดของสายไฟฟ้า
ใช้ขนาดของสายให้เหมาะสมกับปริมาณกระแสที่ไหลในสาย
หรือให้เหมาะสมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าในวงจรนั้น
- สายไฟฟ้าต้องไม่เดินอยู่ใกล้แหล่งความร้อน
สารเคมี หรือถูกของหนักทับ เพราะทำให้ฉนวนชำรุดได้ง่าย
และเกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจรขึ้นได้
- สายไฟฟ้าต้องไม่พาดบนโครงเหล็ก
รั้วเหล็ก ราวเหล็ก หรือส่วนที่เป็นโลหะต้องเดินสายไฟฟ้าโดยใช้พุกประกับ
หรือร้อยท่อให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้ารั่วลงบนโครงโลหะ
ซึ่งจะเกิดอันตรายขึ้นได้
เต้ารับ-เต้าเสียบ
- เต้ารับ เต้าเสียบ ต้องไม่แตกร้าว และไม่มีรอยไหม้
- การต่อสายที่เต้ารับและเต้าเสียบ ต้องให้แน่น และใช้ขนาดสายให้ถูกต้อง
- เต้าเสียบ เมื่อเสียบใช้งานกับเต้ารับต้องแน่น
- เต้ารับ
ต้องติดตั้งในที่แห้ง ไม่เปียกชื้นหรือมีน้ำท่วม
และควรติดให้พ้นมือเด็กเล็กที่อาจเล่นถึงได้
แผงสวิตช์ไฟฟ้า
- ต้องติดตั้งในที่แห้งไม่เปียกชื้นและสูงพอควร ห่างไกลจากสารเคมีและสารไวไฟต่าง ๆ
- ตรวจสอบดูว่ามี มด แมลงเข้าไปทำรังอยู่หรือไม่ หากพบว่ามี ให้ดำเนินการกำจัด
- อย่าวางสิ่งกีดขวางบริเวณแผงสวิตช์
- ควรมีผังวงจรไฟฟ้าโดยสังเขปติดอยู่ที่แผงสวิตช์ เพื่อให้ทราบว่าแต่ละวงจรจ่ายไฟไปที่ใด
- แผงสวิตช์ที่เป็นตู้โลหะควรทำการต่อสายลงดิน
คัทเอาท์
- ตัวคัทเอาท์และฝาครอบต้องไม่แตก
- ใส่ฟิวส์ให้ถูกขนาดและมีฝาครอบปิดให้มิดชิด
- ห้ามใช้วัสดุอื่นใส่แทนฟิวส์
- ขั้วต่อสายที่คัทเอาท์ต้องแน่นและใช้ขนาดสายให้ถูกต้อง
- ใบมีดของตัทเอาท์เมื่อสับใช้งานต้องแน่น
เบรกเกอร์
- ตรวจสอบฝาครอบเบรคเกอร์ต้องไม่แตกร้าว
- ต้องมีฝาครอบปิดเบรคเกอร์ให้มิดชิด
- ต้องติดตั้งในที่แห้งไม่เปียกชื้นและห่างไกลจากสารเคมีสารไวไฟต่าง ๆ
- เลือกเบรคเกอร์ที่มีขนาดเหมาะสมกับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า
ตู้เย็น-ตู้แช่
- ให้ตรวจสอบตู้เย็น
ตู้แช่ ว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วหรือไม่ โดยใช้ไขควงเช็คไฟ
หากพบว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วให้แก้ไขก่อนใช้งานต่อไป
- ให้นำแผ่นฉนวน
เช่น แผ่นยาง แผ่นพลาสติก ปูบริเวณหน้าตู้เย็น ตู้แช่
และแนะนำให้ผู้ที่จะไปเปิดตู้เย็น ตู้แช่
ให้ยืนอยู่บนแผ่นฉนวนดังกล่าวเพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้าดูด
หากเกิดกรณีกระแสไฟฟ้ารั่ว
- ควรถอดปลั๊กตู้เย็น ตู้แช่ ออก หากท่านไม่ใช้งานเป็นเวลานานหรือท่านไม่อยู่บ้านเป็นเวลานาน
- โครงโลหะของตู้เย็น ควรทำการต่อสายลงดิน
เครื่องปรับอากาศ
- ตรวจสอบส่วนที่เป็นโครงโลหะของเครื่องปรับอากาศ
(ซึ่งบุคคลสามารถเข้าไปจับต้องหรือสัมผัสได้) ว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วหรือไม่
โดยใช้ไขควงเช็คไฟหากพบว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วให้ดำเนินการซ่อมแซม
- สายไฟฟ้าที่ใช้ต่อเข้าเครื่องปรับอากาศ
ต้องใช้ขนาดที่ถูกต้องตามพิกัดการใช้งานของเครื่องปรับอากาศ
- จุดต่อสายและจุดเข้าปลายสายทุกจุด ต้องทำให้แน่นและปิดฝาครอบหรือพันฉนวนให้เรียบร้อย
- เครื่องปรับอากาศต้องไม่ติดตั้งใกล้สารหรือวัตถุไวไฟ
- หากขณะใช้งานเครื่องปรับอากาศมีเสียงดังมากผิดปกติ ควรให้ช่างตรวจสอบและแก้ไข
- ไม่ควรเปิดเครื่องปรับอากาศทิ้งไว้ เมื่อท่านออกจากบ้าน
หม้อหุงข้าว
- ตรวจสอบส่วนที่เป็นโลหะของหม้อหุงข้าว
โดยใช้ไขควงเช็คไฟหากพบว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วให้แก้ไขก่อนใช้งานต่อไป
- ปลั๊กเสียบของหม้อหุงข้าวต้องไม่แตกร้าวและสายที่ขั้วปลั๊กไม่หักพับและเปลื่อยชำรุด
- เมื่อเลิกใช้งานต้องถอดปลั๊กออกทันที
- การใช้หม้อหุงข้าวให้ใส่หม้อหุงข้าวตัวในพร้อมปิดฝาให้เรียบร้อยแล้วจึงเสียบปลั๊กใช้งาน
- การจับยกถือหม้อหุงข้าวให้ถอดปลั๊กให้เรียบร้อยก่อน
เครื่องซักผ้า
- ปลั๊กเสียบของเครื่องซักผ้า ต้องไม่แตกร้าว และสายที่ขั้วปลั๊กไม่หักพับและเปื่อยชำรุด
- ปลั๊กเสียบของเครื่องซักผ้าเมื่อเสียบเข้ากับเต้ารับต้องให้แน่น
- ให้ตรวจสอบส่วนที่เป็นโครงโลหะของเครื่องซักผ้า
โดยใช้ไขควงเช็ดไฟหากพบว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วให้ดำเนินการซ่อมแซม
- โครงโลหะของเครื่องซักผ้า ควรทำการต่อสายดิน
- ผู้ใช้เครื่องซักผ้า
ร่างกายต้องไม่เปียกชื้นและไม่ยืนอยู่บนพื้นที่เปียกแฉะขณะจับต้องเครื่องซักผ้า
- เมื่อเลิกใช้งานต้องถอดปลั๊กเสียบออกทันที
พัดลมตั้งพื้น
- ขณะใช้งานหากพัดลมมีเสียงดังผิดปกติ
หรือมีกลิ่นไหม้ หรือหยุดหมุนมีเสียงครางให้หยุดใช้พัดลมทันที
และนำไปตรวจซ่อมแก้ไข
- ในที่ที่มีสารไวไฟไม่ควรใช้พัดลม
เพราะอาจเกิดประกายไฟ ทำให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นได้
ในกรณีที่เป็นพัดลมตั้งพื้น ตั้งโต๊ะ
- ให้ตรวจสอบส่วนที่เป็นโครงโลหะของพัดลม
โดยใช้ไขควงเช็คไฟหากพบว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วให้ดำเนินการซ่อมแซม
- ปลั๊กเสียบของพัดลมต้องไม่แตกร้าว และสายที่ขั้วปลั๊กไม่หักพับและเปื่อยชำรุด
- เมื่อเลิกใช้งานทุกครั้ง ให้ดึงปลั๊กเสียบออก
พัดลมติดเพดาน, ฝาผนัง
- เมื่อเลิกใช้ทุกครั้งให้ปิดสวิตช์
- สวิตช์ปิด-เปิดพัดลม ต้องมีฝาครอบไม่แตกร้าว
- หากสวิตช์พัดลมที่มีฝาครอบเป็นโลหะ ให้ตรวจสอบว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วหรือไม่ ตามที่กล่าวมาแล้ว
เครื่องปั๊มน้ำไฟฟ้า
- ให้ตรวจสอบส่วนที่เป็นโลหะของเครื่องปั๊มน้ำไฟฟ้า
โดยใช้ไขควงเช็คไฟหากพบว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วให้ดำเนินการซ่อมแซม
- โครงโลหะของเครื่องปั๊มน้ำไฟฟ้า ควรทำการต่อสายดิน
- ถ้าเครื่องปั๊มน้ำไฟฟ้า
มีเสียงดังผิดปกติหรือไม่สามารถปั๊มน้ำขึ้นได้ห้ามใช้งานและดำเนินการตรวจสอบเครื่องปั๊มน้ำทันที
- ต้องไม่ติดตั้งเครื่องปั๊มน้ำไฟฟ้าใกล้สารไวไฟ
- เมื่อเลิกใช้งานให้ปิดสวิตช์ หากเป็นแบบปลั๊กเสียบให้ถอดปลั๊กเสียบออกทุกครั้ง
กาต้มน้ำไฟฟ้า
- ปลั๊กเสียบของกาต้มน้ำไฟฟ้า เมื่อเสียบเข้ากับเต้ารับต้องให้แน่น เนื่องจากกาต้มน้ำไฟฟ้าใช้กระแสไฟฟ้จำนวนมาก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความร้อนที่ปลั๊กเสียบสูง
- สายไฟฟ้าของกาต้มน้ำไฟฟ้า ต้องไม่เสื่อมสภาพ ฉีกขาด แตกร้าว
- ให้ตรวจสอบส่วนที่เป็นโครงโลหะของกาต้มน้ำไฟฟ้าโดยใช้ไขควงเช็คไฟหากพบว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วให้ดำเนินการซ่อมแซม
- กาต้มน้ำไฟฟ้า
ควรวางอยู่บนสิ่งที่ไม่ติดไฟ เช่น แผ่นกระเบื้อง แผ่นแก้ว และต้องไม่อยู่
ใกล้สารที่ติดไฟ
- ขณะใช้งาน ต้องระวังอย่าให้น้ำในกาต้มน้ำไฟฟ้าแห้ง
- เมื่อเลิกใช้งาน ต้องถอดปลั๊กเสียบออกทันที
เตารีด
- เต้าเสียบ(ปลั๊กเสียบ) ของเตารีด ต้องไม่แตกร้าวและสายที่ขั้วปลั๊กไม่หักพับและเปื่อยชำรุด
- ตรวจสอบสายไฟที่ต่อที่เตารีดต้องให้แน่น
เนื่องจากส่วนที่มีการเคลื่อนไหวอาจโยกคลอนในขณะใช้งาน
และให้ตรวจสอบปลอกฉนวนยางที่หุ้มสายเข้าเตารีดอย่าให้เปื่อยและชำรุด
- ปลั๊กเสียบของเตารีดเมื่อเสียบกับเต้ารับต้องให้แน่นเนื่องจากเตารีดใช้กระแสไฟฟ้าจำนวนมาก
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความร้อนที่ปลั๊กเสียบสูง
- เมื่อเลิกใช้งาน ต้องถอดปลั๊กเสียบออกทันที
- การใช้งานอย่าวางเตารีดใกล้สิ่งที่จะติดไฟได้ง่ายเพราะอาจเกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้ขึ้นได้
- สายไฟฟ้าของเตารีดห้ามใช้สายอ่อนธรรมดา
เนื่องจากตัวเตารีดอาจไปถูกสายไฟฟ้าทำให้ฉนวน พีวีซี.
ละลายเกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจรหรือผู้ใช้อาจถูกกระแสไฟฟ้าดูดได้
ให้เลือกใช้สายไฟเฉพาะของเตารีด ซึ่งเป็นสายที่มีฉนวน 2 ชั้น
และชั้นนอกทนความร้อนได้
- ขณะใช้เตารีด
ผู้ใช้ควรยืนอยู่บนฉนวน เช่น แผ่นยาง หรือแผ่นไม้ตามความสะดวก
ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้กระแสไฟฟ้าดูดผู้ใช้
เนื่องจากกระแสไฟฟ้ารั่วที่ตัวเตารีด
- ตรวจสอบว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วหรือไม่
เครื่องดูดฝุ่น
- เต้าเสียบของเครื่องดูดฝุ่น ต้องไม่แตกร้าว และไม่มีรอยไหม้
- สายไฟฟ้าของเครื่องดูดฝุ่นติดต่อกันเป็นเวลานานมาก(หลายชั่วโมง)
เพราะเครื่องจะร้อนมากอาจเกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจรและอาจเกิดการลุกไหม้ขึ้นได้
- หมั่นเทฝุ่นในถุงกรองทิ้ง จะช่วยให้เครื่องทำงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เครื่องเป่าผมไฟฟ้า
- เต้าเสียบของเครื่องเป่าผม ต้องไม่แตกร้าว และไม่มีรอยไหม้
- สายไฟฟ้าของเครื่องเป่าผม ต้องไม่แตกเปื่อยยุ่ย
- ใช้ไขควงเช็คไฟตรวจสอบส่วนที่เป็นโครงโลหะ หากพบว่าไฟฟ้ารั่วให้แก้ไขก่อนใช้งานต่อไป
เตาไฟฟ้า กะทะไฟฟ้า
- ให้ตรวจสอบส่วนที่เป็นโลหะของเตาไฟฟ้าและกะทะไฟฟ้า
โดยใช้ไขควงเช็คไฟ หากพบว่ามีไฟฟ้ารั่วก็ให้แก้ไข
- สายไฟฟ้าของเตาไฟฟ้า กะทะไฟฟ้า ต้องไม่เสื่อมสภาพ หรือฉีกขาด แตก
- เต้าเสียบ (ปลั๊กเสียบ) ของเตาไฟฟ้า กะทะไฟฟ้า ต้องไม่แตกร้าว และไม่มีรอยไหม้
- เตาไฟฟ้า กะทะไฟฟ้า ต้องไม่วางอยู่บนพื้นที่ติดไฟและอยู่ใกล้สารไวไฟ
- เมื่อเลิกใช้งาน ต้องถอดปลั๊กเสียบออกทุกครั้ง
- ผู้ใช้เตาไฟฟ้า
กะทะไฟฟ้า ควรยืนอยู่บนพื้นฉนวน เช่น แผ่นไม้แห้ง แผ่นยางแห้ง
เพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้าดูดเนื่องจากไฟฟ้ารั่ว
- ควรระวังอย่าตั้งสิ่งหุงต้มบนเตาไฟฟ้า กะทะไฟฟ้า ทิ้งไว้นาน เพราะอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นได้
โทรทัศน์
- ไม่ควรตรวจซ่อมโทรทัศน์ด้วยตนเอง
หากท่านไม่มีความรู้เพียงพอเนื่องจากมีส่วนของไฟฟ้าแรงสูงอยู่ในโทรทัศน์ด้วย
- เต้าเสียบ(ปลั๊กเสียบ) ของโทรทัศน์ต้องไม่แตกร้าวและสายที่ขั้วปลั๊กไม่หักพับและเปื่อยชำรุด
- ห้ามเปิดฝาครอบโทรทัศน์ในขณะที่เปิดดูโทรทัศน์อยู่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก