สาเหตุหลักๆของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนนั้นมาจากความประมาทของผู้ขับขี่
ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด
ความพร้อมของร่างกายผู้ขับขี่ พักผ่อนไม่เพียงพอทำให้เกิดการหลับใน
เมาแล้วขับ และความพร้อมของยานพาหนะที่ขับขี่
จะเห็นได้ว่าจากที่กล่าวมานี้เป็นสิ่งที่เราสามารถป้องกันและควบคุมได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความประมาทและความพร้อมของร่างกายคนขับ เช่น " การหลับใน " ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากลัวและอันตรายเป็นอย่างมาก อาการหลับในสามารถเกิดขึ้นได้กับผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ
ซึ่งถือว่าอันตรายยิ่งกว่าเมาแล้วขับเสียอีก
เพราะการเผลอหลับเพียงชั่ววูบเดียวก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้
วันนี้เรามีเทคนิคดีๆ ที่ช่วยป้องกันการหลับในอย่างได้ผล
มีอาการอย่างไรและมีวิธีป้องกันอย่างไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ
สัญญานเตือนที่บ่งบอกว่าคุณเริ่มมีอาการหลับใน
สัญญาณเริ่มต้นของอาการหลับในมีหลายแบบ เช่น ตั้งหน้าตั้งตาขับรถเพียงอย่างเดียว ไม่มีการละมือจากพวงมาลัยไปกดปุ่มต่างๆ หรือไม่คุยกับใครในรถ รู้สึกมีอาการมึนศีรษะ เผลอขับรถออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ ขับส่ายไปมา และไม่สามารถจำได้ว่าขับผ่านอะไรในช่วง 1-2 กิโลเมตรที่ผ่านมา
อาการทั้งหมดเหล่านี้บ่งบอกว่าคุณกำลังเผชิญความเสี่ยงต่อการหลับใน จนอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุตามมาได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการหลับใน แนะนำให้นำเทคนิคข้างล่างนี้ไปใช้เพื่อพิชิตหลับใน มีอะไรบ้างไปดูเลยกันเลย
10 เทคนิคป้องกันอาการหลับใน
1. เคี้ยวหมากฝรั่ง
หากใครรู้ตัวว่ามักมีอาการง่วงซึมขณะขับรถอยู่บ่อยๆ ลองพกหมากฝรั่งติดรถเอาไว้บ้าง การเคี้ยวหมากฝรั่งไปด้วย จะช่วยยืดอาการง่วงซึมออกไปได้อีกพอสมควร เพราะอย่างน้อยก็มีอวัยวะบางส่วนที่ต้องขยับอยู่ตลอดเวลา การขยับปากเป็นการทำให้สมองได้รับออกซิเจนมากขึ้น เพราะเค้าว่ากันว่าสาเหตุของความง่วงนอนนั้นมาจากการที่ สมองรับออกซิเจนน้อยนั้นเอง
2.คุยกับคนข้างๆ หรือโทรศัพท์หาใครสักคน
การหลับในอาจเกิดได้ในกรณีขับรถเพลินๆ เพ่งสมาธิไปที่การขับรถเพียงอย่างเดียว สายตาก็มองไปแต่ถนนข้างหน้า ต้นไม้น้อยใหญ่ที่เคลื่อนผ่านไปก็ชวนให้ง่วงดีแท้ ดังนั้น หากเริ่มมีอาการหลับใน ให้ลองชวนคนข้างๆคุยดูก็ดี ช่วยให้มีการพูดคุยโต้ตอบ แก้ง่วงได้เหมือนกัน หากขับรถคนเดียวก็ไม่ยาก ลองโทรศัพท์หาใครดูซักคน แล้วอย่าลืมใช้สมอลทอล์ค หรือคุยผ่านลำโพงในรถเพื่อความปลอดภัย
3.เหยียบคันเร่งให้มิด....!
นี่อาจเป็นคำแนะนำที่ดูแปลกไปนิด แต่อย่างที่บอกไปว่าการขับรถขณะหลับใน จะมีการขับขี่ตามคันหน้าไปแบบเรื่อยๆ ดังนั้น เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารอะดรีนาลีนออกมานั้น ผู้อ่านอาจลองใช้วิธีเหยียบคันเร่งให้มิด จะทำให้ตัวรถพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ทีนี้พอกำลังเคลิ้มๆได้ที่อยู่ ก็จะรู้สึกตกใจ ช่วยให้หายง่วงซึมได้เหมือนกัน พอร่างกายเริ่มตื่นแล้วก็ปล่อยคันเร่งแล้วขับต่อไปตามปกติ
แต่อย่าลืมว่าต้องทำขณะรถโล่งและปลอดภัยเท่านั้น รวมถึงต้องไม่ใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนดด้วย
4.ไม่ทานอาหารจนอิ่มเกินไป
การทานอาหารมากจนเกินไปมีผลทำให้เกิดอาการง่วงซึมได้ ดังนั้น หากใครที่รู้ตัวว่าทานอาหารเสร็จแล้วมักจะมีอาการง่วงตามมา ก็ให้ทานแต่พอดี ไม่ปล่อยให้อิ่มจนเกินไป หาซื้อขนมมาทานต่อบนรถก็เป็นทางเลือกที่ดี แต่อย่าลืมว่าต้องเป็นขนมที่หยิบง่าย ไม่หกเลอะเทอะ จึงจะขับรถได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
5.ซาดิสต์นิด.. พกยาดมติดรถไว้บ้าง
สูดมันเข้าไปยาวๆ ให้เต็มปอด คงพอช่วยได้ระดับหนึ่ง หากยังเอาไม่อยู่จัดเลย ป้ายตาเบาๆ โดนหนักขนาดนี้ยังไงก็เอาอยู่ แต่อย่าเผลอป้ายเยอะเกินไป เพราะเดี๋ยวจะแสบตาจนลืมตาไม่ขึ้นนั่นเอง อันนี้อันตรายเลยนะคะ ฉะนั้นหากใช้เทคนิคนี้ต้องระวังพอสมควร
6.เปิดเพลงฟังแล้วต้องร้องตามดังๆ
อย่าฟังเฉยๆ เดี๋ยวจะเพลินจนหลับได้ ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ๆ เครื่องเสียงดีๆ เปิดดังๆช่วยได้เยอะ เสียงเบส ตึ๊บๆ จังหวะเร็ว ๆ หัวใจเราจะเต้นเร็วตามช่วยพาเลือดไปเลี้ยงสมอง
7..ปิดแอร์ เปิดกระจก
บางครั้งแอร์เย็นๆในรถเนี่ยแหละ ก็เป็นตัวการที่ทำให้เรารู้สึกคิดถึงเตียงนุ่มๆที่บ้านเป็นยิ่งนัก ดังนั้น ลองปิดแอร์แล้วลดกระจกคู่หน้าลงขณะขับรถ ก็จะช่วยให้รู้สึกกลับมาสดชื่นได้เหมือนกัน
8. กินขนม-ดื่มน้ำ
ก่อนเดินทางลองแวะซื้อขนมห่อหรือหมากฝรั่งติดรถไว้ พอเริ่มรู้สึกง่วงก็ให้หยิบขึ้นมากิน เป็นการสร้างกิจกรรมให้ร่างกายได้ขยับเขยี้อนบ้าง ช่วยยืดอาการง่วงซึมออกไปได้อีกสักระยะ หรือระหว่างทางแวะซื้อเครื่องดื่มเย็นๆติดรถไว้ คอยจิบทีละนิด จะช่วยให้หายง่วงได้เช่นเดียวกัน
9. สเปรย์น้ำแร่ฉีดหน้า
อีกหนึ่งวิธีที่ได้ผลเช่นกัน คือการติดสเปรย์น้ำแร่สำหรับฉีดหน้าเอาไว้ในรถ ทางที่ดีให้วางไว้ในที่ที่มีลมแอร์ผ่าน จะช่วยให้น้ำแร่ในกระป๋องเย็นถึงใจ ทีนี่เมื่อจับเอามาพ่นใส่หน้าซักทีสองที ก็จะพอช่วยให้สะดุ้งจนหายง่วงได้เป็นปลิดทิ้ง
10.จอดปั๊มล้างหน้า/นอนงีบ
ถ้าลองทำทุกข้อแล้วยังไม่ได้ผล ไม่สามรถช่วยให้คุณหายจากอาการหลับในได้ แนะนำให้แวะปั๊มนอนงีบสักหน่อย ซึ่งวิธีนี้ถือเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ซึ่งการจอดรถพักผ่อนเอาแรงก็มีเทคนิคเล็กน้อยเช่นกัน เพื่อให้ปลอดภัยต่อทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ดังนี้
- จอดรถในที่ที่มีคนพลุกพล่าน และมีแสงสว่าง เช่น ปั๊มน้ำมันใหญ่ๆ, ที่จอดรถมินิมาร์ท เป็นต้น
- ปิดแอร์ดับเครื่องยนต์ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการไหลเวียนของคาร์บอนมอนออกไซด์ ที่อาจส่งผลให้เสียชีวิตโดยไม่รู้ตัว
- ล็อกประตูทุกบาน จากนั้นลดกระจกหน้าต่างคู่หลังลงเล็กน้อย ประมาณ 2-3 เซนติเมตร แล้วกดปุ่มล็อคกระจกคู่หลังไว้เพื่อความปลอดภัย
- ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ ประมาณ 10-15 นาทีกำลังดี
หลังจากอ่านบทความนี้จบแล้ว อย่าลืมนำเอาเทคนิคเหล่านี้ไปลองทำกันดูนะคะ เพราะหากเผลอหลับเพียงวูบเดียวก็เสี่ยงดับได้ และอย่าลืมตระหนักถึงความปลอดภัยในการขับขี่โดยเริ่มจากการไม่ประมาท ไม่ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด เมาไม่ขับ เช็คความพร้อมของร่างกายและยานพาหนะที่ขับขี่ ก่อนที่จะเดินทางทุกครั้ง รวมถึงการปฏิบัติตามกฎจราจร เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
ของคุณข้อมูลจาก : http://auto.sanook.com/และ https://www.pptvthailand.com
ขอบคุณรูปภาพจาก : http://www.travelprothai.com, Epicurious, OKNation, www.mayawater.com, https://expertbeacon.com, โพสต์ทูเดย์, Workpoint
สัญญานเตือนที่บ่งบอกว่าคุณเริ่มมีอาการหลับใน
สัญญาณเริ่มต้นของอาการหลับในมีหลายแบบ เช่น ตั้งหน้าตั้งตาขับรถเพียงอย่างเดียว ไม่มีการละมือจากพวงมาลัยไปกดปุ่มต่างๆ หรือไม่คุยกับใครในรถ รู้สึกมีอาการมึนศีรษะ เผลอขับรถออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ ขับส่ายไปมา และไม่สามารถจำได้ว่าขับผ่านอะไรในช่วง 1-2 กิโลเมตรที่ผ่านมา
อาการทั้งหมดเหล่านี้บ่งบอกว่าคุณกำลังเผชิญความเสี่ยงต่อการหลับใน จนอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุตามมาได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการหลับใน แนะนำให้นำเทคนิคข้างล่างนี้ไปใช้เพื่อพิชิตหลับใน มีอะไรบ้างไปดูเลยกันเลย
10 เทคนิคป้องกันอาการหลับใน
1. เคี้ยวหมากฝรั่ง
หากใครรู้ตัวว่ามักมีอาการง่วงซึมขณะขับรถอยู่บ่อยๆ ลองพกหมากฝรั่งติดรถเอาไว้บ้าง การเคี้ยวหมากฝรั่งไปด้วย จะช่วยยืดอาการง่วงซึมออกไปได้อีกพอสมควร เพราะอย่างน้อยก็มีอวัยวะบางส่วนที่ต้องขยับอยู่ตลอดเวลา การขยับปากเป็นการทำให้สมองได้รับออกซิเจนมากขึ้น เพราะเค้าว่ากันว่าสาเหตุของความง่วงนอนนั้นมาจากการที่ สมองรับออกซิเจนน้อยนั้นเอง
2.คุยกับคนข้างๆ หรือโทรศัพท์หาใครสักคน
การหลับในอาจเกิดได้ในกรณีขับรถเพลินๆ เพ่งสมาธิไปที่การขับรถเพียงอย่างเดียว สายตาก็มองไปแต่ถนนข้างหน้า ต้นไม้น้อยใหญ่ที่เคลื่อนผ่านไปก็ชวนให้ง่วงดีแท้ ดังนั้น หากเริ่มมีอาการหลับใน ให้ลองชวนคนข้างๆคุยดูก็ดี ช่วยให้มีการพูดคุยโต้ตอบ แก้ง่วงได้เหมือนกัน หากขับรถคนเดียวก็ไม่ยาก ลองโทรศัพท์หาใครดูซักคน แล้วอย่าลืมใช้สมอลทอล์ค หรือคุยผ่านลำโพงในรถเพื่อความปลอดภัย
3.เหยียบคันเร่งให้มิด....!
นี่อาจเป็นคำแนะนำที่ดูแปลกไปนิด แต่อย่างที่บอกไปว่าการขับรถขณะหลับใน จะมีการขับขี่ตามคันหน้าไปแบบเรื่อยๆ ดังนั้น เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารอะดรีนาลีนออกมานั้น ผู้อ่านอาจลองใช้วิธีเหยียบคันเร่งให้มิด จะทำให้ตัวรถพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ทีนี้พอกำลังเคลิ้มๆได้ที่อยู่ ก็จะรู้สึกตกใจ ช่วยให้หายง่วงซึมได้เหมือนกัน พอร่างกายเริ่มตื่นแล้วก็ปล่อยคันเร่งแล้วขับต่อไปตามปกติ
แต่อย่าลืมว่าต้องทำขณะรถโล่งและปลอดภัยเท่านั้น รวมถึงต้องไม่ใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนดด้วย
4.ไม่ทานอาหารจนอิ่มเกินไป
การทานอาหารมากจนเกินไปมีผลทำให้เกิดอาการง่วงซึมได้ ดังนั้น หากใครที่รู้ตัวว่าทานอาหารเสร็จแล้วมักจะมีอาการง่วงตามมา ก็ให้ทานแต่พอดี ไม่ปล่อยให้อิ่มจนเกินไป หาซื้อขนมมาทานต่อบนรถก็เป็นทางเลือกที่ดี แต่อย่าลืมว่าต้องเป็นขนมที่หยิบง่าย ไม่หกเลอะเทอะ จึงจะขับรถได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
5.ซาดิสต์นิด.. พกยาดมติดรถไว้บ้าง
สูดมันเข้าไปยาวๆ ให้เต็มปอด คงพอช่วยได้ระดับหนึ่ง หากยังเอาไม่อยู่จัดเลย ป้ายตาเบาๆ โดนหนักขนาดนี้ยังไงก็เอาอยู่ แต่อย่าเผลอป้ายเยอะเกินไป เพราะเดี๋ยวจะแสบตาจนลืมตาไม่ขึ้นนั่นเอง อันนี้อันตรายเลยนะคะ ฉะนั้นหากใช้เทคนิคนี้ต้องระวังพอสมควร
6.เปิดเพลงฟังแล้วต้องร้องตามดังๆ
อย่าฟังเฉยๆ เดี๋ยวจะเพลินจนหลับได้ ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ๆ เครื่องเสียงดีๆ เปิดดังๆช่วยได้เยอะ เสียงเบส ตึ๊บๆ จังหวะเร็ว ๆ หัวใจเราจะเต้นเร็วตามช่วยพาเลือดไปเลี้ยงสมอง
7..ปิดแอร์ เปิดกระจก
บางครั้งแอร์เย็นๆในรถเนี่ยแหละ ก็เป็นตัวการที่ทำให้เรารู้สึกคิดถึงเตียงนุ่มๆที่บ้านเป็นยิ่งนัก ดังนั้น ลองปิดแอร์แล้วลดกระจกคู่หน้าลงขณะขับรถ ก็จะช่วยให้รู้สึกกลับมาสดชื่นได้เหมือนกัน
8. กินขนม-ดื่มน้ำ
ก่อนเดินทางลองแวะซื้อขนมห่อหรือหมากฝรั่งติดรถไว้ พอเริ่มรู้สึกง่วงก็ให้หยิบขึ้นมากิน เป็นการสร้างกิจกรรมให้ร่างกายได้ขยับเขยี้อนบ้าง ช่วยยืดอาการง่วงซึมออกไปได้อีกสักระยะ หรือระหว่างทางแวะซื้อเครื่องดื่มเย็นๆติดรถไว้ คอยจิบทีละนิด จะช่วยให้หายง่วงได้เช่นเดียวกัน
9. สเปรย์น้ำแร่ฉีดหน้า
อีกหนึ่งวิธีที่ได้ผลเช่นกัน คือการติดสเปรย์น้ำแร่สำหรับฉีดหน้าเอาไว้ในรถ ทางที่ดีให้วางไว้ในที่ที่มีลมแอร์ผ่าน จะช่วยให้น้ำแร่ในกระป๋องเย็นถึงใจ ทีนี่เมื่อจับเอามาพ่นใส่หน้าซักทีสองที ก็จะพอช่วยให้สะดุ้งจนหายง่วงได้เป็นปลิดทิ้ง
10.จอดปั๊มล้างหน้า/นอนงีบ
ถ้าลองทำทุกข้อแล้วยังไม่ได้ผล ไม่สามรถช่วยให้คุณหายจากอาการหลับในได้ แนะนำให้แวะปั๊มนอนงีบสักหน่อย ซึ่งวิธีนี้ถือเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ซึ่งการจอดรถพักผ่อนเอาแรงก็มีเทคนิคเล็กน้อยเช่นกัน เพื่อให้ปลอดภัยต่อทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ดังนี้
- จอดรถในที่ที่มีคนพลุกพล่าน และมีแสงสว่าง เช่น ปั๊มน้ำมันใหญ่ๆ, ที่จอดรถมินิมาร์ท เป็นต้น
- ปิดแอร์ดับเครื่องยนต์ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการไหลเวียนของคาร์บอนมอนออกไซด์ ที่อาจส่งผลให้เสียชีวิตโดยไม่รู้ตัว
- ล็อกประตูทุกบาน จากนั้นลดกระจกหน้าต่างคู่หลังลงเล็กน้อย ประมาณ 2-3 เซนติเมตร แล้วกดปุ่มล็อคกระจกคู่หลังไว้เพื่อความปลอดภัย
- ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ ประมาณ 10-15 นาทีกำลังดี
หลังจากอ่านบทความนี้จบแล้ว อย่าลืมนำเอาเทคนิคเหล่านี้ไปลองทำกันดูนะคะ เพราะหากเผลอหลับเพียงวูบเดียวก็เสี่ยงดับได้ และอย่าลืมตระหนักถึงความปลอดภัยในการขับขี่โดยเริ่มจากการไม่ประมาท ไม่ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด เมาไม่ขับ เช็คความพร้อมของร่างกายและยานพาหนะที่ขับขี่ ก่อนที่จะเดินทางทุกครั้ง รวมถึงการปฏิบัติตามกฎจราจร เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
ของคุณข้อมูลจาก : http://auto.sanook.com/และ https://www.pptvthailand.com
ขอบคุณรูปภาพจาก : http://www.travelprothai.com, Epicurious, OKNation, www.mayawater.com, https://expertbeacon.com, โพสต์ทูเดย์, Workpoint