สุขภาพของผู้หญิง
เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะช่องคลอด
ที่อาจเกิดการติดเชื้อได้ง่ายและเป็นอันตรายไม่น้อย
ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะเกิดจากการมีพฤติกรรมแบบผิดๆ ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพช่องคลอดนั่นเอง โดยจะมีพฤติกรรมใดบ้างนั้น ตามมาดูกันเลย
1.ใส่ผ้าอนามัยนานเกินไป
โดยปกติแล้ว การใส่ผ้าอนามัยควรเปลี่ยนทุกๆ 2 ชั่วโมง ไม่ว่าจะมามากหรือมาน้อยก็ตาม หากมามากเต็มเร็วก็สามารถเปลี่ยนได้เลย ไม่ควรหมักหมมไว้นานเกินไป เพราะด้วยความชื้นจะทำให้เกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียบริเวณช่องคลอด จนลามไปถึงการติดเชื้อได้ในที่สุด ยิ่งหากใช้ผ้าอนามัยแบบสอดด้วยแล้ว ไม่ควรละเลยการเปลี่ยนผ้าอนามัยตามระยะเวลาที่เหมาะสมเป็นอันขาด
2.สวนล้างช่องคลอด
ช่องคลอดของคนเรา มีระบบกลไกในการทำความสะอาดตัวเองอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องสวนล้างช่องคลอด ซึ่งเป็นวิธีที่อาจทำให้เป็นอันตรายและเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย โดยการทำความสะอาดช่องคลอดที่ถูกวิธีนั้น ให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่น แล้วเช็ดบริเวณปากช่องคลอดเบาๆ เท่านี้ก็จะทำให้ช่องคลอดสะอาดและลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อได้แล้ว นอกจากนี้ในขณะอาบน้ำ ควรใช้สบู่ที่มีความอ่อนโยนหรือสบู่เด็ก ในการล้างทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นโดยเฉพาะ
3.ใส่กางเกงในคับแน่น
กางเกงในที่คับแน่นเกินไป ก็อาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อในช่องคลอดได้เหมือนกัน ดังนั้นจึงควรเลือกกางเกงในที่สวมใส่สบาย มีขนาดพอดีตัวจะดีกว่า ที่สำคัญควรทำจากผ้าฝ้าย เพราะเป็นเนื้อผ้าที่มีความโปร่ง สามารถระบายความชื้นได้ดี จึงลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและการหมักหมมของเชื้อโรคที่ทำให้เกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้ดีเชียวล่ะ นอกจากนี้ควรซักกางเกงตากให้แห้งสนิทก่อนนำมาใช้ทุกครั้ง ไม่ควรใส่กางเกงในซ้ำบ่อยๆ หรือใส่กางเกงในที่กำลังชื้นเด็ดขาด
4.ใส่กางเกงคับแน่นเป็นเวลานาน
การใส่กางเกงที่มีความคับแน่นเป็นเวลานาน ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในช่องคลอดได้เช่นกัน โดยเฉพาะหากตรงเป้ากางเกงมีความคับมาก ดังนั้นจึงควรใส่กางเกงที่สวมใส่สบาย ขนาดพอดีตัวไม่คับจนเกินไป เพื่อสุขภาพช่องคลอดที่ดีจะดีกว่า
และนี่ก็คือ 4 ข้อที่คุณควรเลี่ยงถ้าไม่อยากเสี่ยงมดลูกพัง เพราะการติดเชื้อในช่องคลอดจะส่งผลอันตรายอย่างมากมายเลยทีเดียว ดังนั้นลองมาเช็คกันดูสิว่า คุณกำลังทำพฤติกรรมเสี่ยงช่องคลอดติดเชื้อเหล่านี้อยู่หรือเปล่า ถ้าใช่ ก็ควรหยุดด่วน ก่อนที่จะสายเกินไป
ขอบคุณภาพประกอบจาก : istock
1.ใส่ผ้าอนามัยนานเกินไป
โดยปกติแล้ว การใส่ผ้าอนามัยควรเปลี่ยนทุกๆ 2 ชั่วโมง ไม่ว่าจะมามากหรือมาน้อยก็ตาม หากมามากเต็มเร็วก็สามารถเปลี่ยนได้เลย ไม่ควรหมักหมมไว้นานเกินไป เพราะด้วยความชื้นจะทำให้เกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียบริเวณช่องคลอด จนลามไปถึงการติดเชื้อได้ในที่สุด ยิ่งหากใช้ผ้าอนามัยแบบสอดด้วยแล้ว ไม่ควรละเลยการเปลี่ยนผ้าอนามัยตามระยะเวลาที่เหมาะสมเป็นอันขาด
2.สวนล้างช่องคลอด
ช่องคลอดของคนเรา มีระบบกลไกในการทำความสะอาดตัวเองอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องสวนล้างช่องคลอด ซึ่งเป็นวิธีที่อาจทำให้เป็นอันตรายและเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย โดยการทำความสะอาดช่องคลอดที่ถูกวิธีนั้น ให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่น แล้วเช็ดบริเวณปากช่องคลอดเบาๆ เท่านี้ก็จะทำให้ช่องคลอดสะอาดและลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อได้แล้ว นอกจากนี้ในขณะอาบน้ำ ควรใช้สบู่ที่มีความอ่อนโยนหรือสบู่เด็ก ในการล้างทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นโดยเฉพาะ
3.ใส่กางเกงในคับแน่น
กางเกงในที่คับแน่นเกินไป ก็อาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อในช่องคลอดได้เหมือนกัน ดังนั้นจึงควรเลือกกางเกงในที่สวมใส่สบาย มีขนาดพอดีตัวจะดีกว่า ที่สำคัญควรทำจากผ้าฝ้าย เพราะเป็นเนื้อผ้าที่มีความโปร่ง สามารถระบายความชื้นได้ดี จึงลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและการหมักหมมของเชื้อโรคที่ทำให้เกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้ดีเชียวล่ะ นอกจากนี้ควรซักกางเกงตากให้แห้งสนิทก่อนนำมาใช้ทุกครั้ง ไม่ควรใส่กางเกงในซ้ำบ่อยๆ หรือใส่กางเกงในที่กำลังชื้นเด็ดขาด
4.ใส่กางเกงคับแน่นเป็นเวลานาน
การใส่กางเกงที่มีความคับแน่นเป็นเวลานาน ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในช่องคลอดได้เช่นกัน โดยเฉพาะหากตรงเป้ากางเกงมีความคับมาก ดังนั้นจึงควรใส่กางเกงที่สวมใส่สบาย ขนาดพอดีตัวไม่คับจนเกินไป เพื่อสุขภาพช่องคลอดที่ดีจะดีกว่า
และนี่ก็คือ 4 ข้อที่คุณควรเลี่ยงถ้าไม่อยากเสี่ยงมดลูกพัง เพราะการติดเชื้อในช่องคลอดจะส่งผลอันตรายอย่างมากมายเลยทีเดียว ดังนั้นลองมาเช็คกันดูสิว่า คุณกำลังทำพฤติกรรมเสี่ยงช่องคลอดติดเชื้อเหล่านี้อยู่หรือเปล่า ถ้าใช่ ก็ควรหยุดด่วน ก่อนที่จะสายเกินไป
ขอบคุณภาพประกอบจาก : istock