เราเก็บเคล็ดลับดี ๆ จากคอลัมน์ The Lemon Juice Diet ของหนังสือ New Book ที่นักเขียนสาว เธเรซา เชียง ได้ให้คำแนะนำกับปัญหาโรคอ้วน ที่สามารถแก้ไขได้ด้วยการรับประทานมะนาว
เชียงกล่าว ว่า “มีเหตุผลมากมาย ที่ทำให้ผู้หญิงต้องต่อสู้กับน้ำหนักตัวที่มากจนเกินไป หนึ่งในนั้นคือปัญหาของระบบย่อยอาหารที่ทำงานไม่เป็นปกติ ซึ่งนั่นก็คือธรรมเนียมของการลดน้ำหนัก ที่อาจทำให้สาว ๆ ต้องเสี่ยงกับความทุกข์ทรมานไปชั่วชีวิต จะถึงอย่างนั้นก็ตาม มันยังมีตัวช่วยที่วิเศษมาก ๆ
นั่นคือ มะนาว ที่มีสรรพคุณช่วยในการลดน้ำหนักอย่างดียิ่ง ทั้งน้ำและเปลือก ที่จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ยิ่งถ้าหากคุณเป็นคนที่ดูแลสุขภาพ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วยแล้ว เมื่อใดที่คุณอ้วนขึ้นมา มะนาวจะช่วยให้น้ำหนักของคุณลดลงได้ง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ”
มีผลงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า หากระบบย่อยอาหารของคนเราทำงานไม่เป็นปกติ ต่อให้หักโหมลดน้ำหนักแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ เพราะระบบย่อยอาหารที่ไร้ประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายไม่สามารถรับสารอาหารที่จำเป็นในการเผาผลาญไขมัน ซึ่งมันทำให้เกิดสารพิษตกค้างในร่างกาย และขจัดออกไปได้ยากและช้าลงอีกด้วย
ในเมื่อ “มะนาว” ช่วยในระบบการย่อยอาหาร และสกัดสารพิษได้เป็นอย่างดี พลังจากผลไม้ธรรมชาติ อย่าง “มะนาว” จึงถูกกล่าวขานว่ามีสรรพคุณในการลดความอ้วนได้อย่างดีที่สุด
โดย “มะนาว” อุดม ไปด้วยกรดไซตริก (7-8% คือสูงที่สุดในบรรดาผลไม้ทุกๆ ประเภท) และเชียงยังระบุอีกด้วยว่า หากมะนาวถูกนำมาผสมรวมกับโปรตีนและกรดอื่น ๆ ก็จะยิ่งช่วยกระตุ้นให้น้ำย่อยในกระเพาะทำงานได้ดียิ่งขึ้น
ในคอลัมน์ The Lemon Juice Diet ยังออกมาสนับสนุนให้ประชาชนวางแผนเมนูการทำอาหารในแต่ละมื้อว่า ต้องมีมะนาวรวมอยู่ด้วย หรือดัดแปลงรสชาติอาหารให้มีรสเปรี้ยวถูกปากมากยิ่งขึ้น โดยกล่าวว่า หากคุณทำตามกฎหลักทั้ง 3 ข้อนี้ คุณจะน้ำหนักลดลงได้ดั่งใจปรารถนา
1. ดื่มน้ำมะนาวกับน้ำอุ่นทุก ๆ เช้า
เพื่อกระตุ้นระบบย่อยอาหารให้ทำงานดียิ่งขึ้น มะนาวเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีมากที่สุด ไม่เพียงแต่จะดีสำหรับช่วยลดไข้ได้ แต่มันยังมีผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยแอริโซนา แนะนำมาว่า ใครที่กินผลไม้และผักที่มีวิตามินซีในปริมาณที่มาก จะมีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหาร และจะช่วยให้น้ำหนักลดได้ดีกว่าวิธีอื่น ๆ อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น น้ำมะนาวยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมให้กักเก็บเอาไว้ในเซลล์ไขมัน ผลวิจัยยังแสดงอีกว่า แคลเซียมที่มีอยู่ในเซลล์ไขมันปริมาณมาก ๆ จะช่วยเผาผลาญไขมันได้ดียิ่งขึ้น
2. รับประทานผักและผลไม้อย่างน้อยวันละ 5 ชนิด
เพราะผักและผลไม้ทุกประเภท จะมีปริมาณแคลอรีที่น้อยมาก แต่อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ เส้นใย และสารอาหารที่ครบครัน จะช่วยในการปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย ช่วยให้ระบบประสาททำงานอย่างสงบลง
3. ปรับสมดุลของระดับน้ำตาลในเลือด
โดยการบีบน้ำมะนาวลงไปในมื้ออาหารทุกมื้อ หรือผสมเปลือกมะนาวลงไปในซุปหรือสลัด และบีบมะนาวเพียงเล็กน้อยโปรยลงบนเนื้อปลา และเนื้อไก่ก่อนรับประทาน แล้วจะรู้ว่ามะนาวคือเส้นใยที่มหัศจรรย์ที่สุด เพราะมะนาวจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงด้วย
นอกจากนี้ผลการศึกษาของวิทยาลัย Journal of the America College of Nutrition รายงานว่า คาร์โบไฮเดรตที่พบในผิวเปลือกของมะนาว จะสามารถกำจัดความอยากกินให้ลดลงได้ถึง 4 ชั่วโมง เปลือกมะนาวเป็นแหล่งรวมไฟเบอร์ที่ดีที่สุด ช่วยให้ระบบย่อยอาหารสามารถดูดซึมน้ำตาลได้เร็วยิ่งขึ้น หลังจากที่คุณกินมัน คุณจะรู้สึกอิ่มไปอีกนานเลยทีเดียว
ใครจะคิดว่า “มะนาว” จะมีประโยชน์และสรรพคุณในการลดน้ำหนักที่ให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่ง ที่พิเศษไปกว่านั้นคือมันทำให้เรากินเนย โปรตีน ช็อกโกแลตและไอศกรีมได้อย่างสบายใจ คุณสามารถกินได้เท่าที่ใจอยากจะกิน โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องของแคลอรี
เชียงกล่าว ว่า “มีเหตุผลมากมาย ที่ทำให้ผู้หญิงต้องต่อสู้กับน้ำหนักตัวที่มากจนเกินไป หนึ่งในนั้นคือปัญหาของระบบย่อยอาหารที่ทำงานไม่เป็นปกติ ซึ่งนั่นก็คือธรรมเนียมของการลดน้ำหนัก ที่อาจทำให้สาว ๆ ต้องเสี่ยงกับความทุกข์ทรมานไปชั่วชีวิต จะถึงอย่างนั้นก็ตาม มันยังมีตัวช่วยที่วิเศษมาก ๆ
นั่นคือ มะนาว ที่มีสรรพคุณช่วยในการลดน้ำหนักอย่างดียิ่ง ทั้งน้ำและเปลือก ที่จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ยิ่งถ้าหากคุณเป็นคนที่ดูแลสุขภาพ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วยแล้ว เมื่อใดที่คุณอ้วนขึ้นมา มะนาวจะช่วยให้น้ำหนักของคุณลดลงได้ง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ”
มีผลงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า หากระบบย่อยอาหารของคนเราทำงานไม่เป็นปกติ ต่อให้หักโหมลดน้ำหนักแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ เพราะระบบย่อยอาหารที่ไร้ประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายไม่สามารถรับสารอาหารที่จำเป็นในการเผาผลาญไขมัน ซึ่งมันทำให้เกิดสารพิษตกค้างในร่างกาย และขจัดออกไปได้ยากและช้าลงอีกด้วย
ในเมื่อ “มะนาว” ช่วยในระบบการย่อยอาหาร และสกัดสารพิษได้เป็นอย่างดี พลังจากผลไม้ธรรมชาติ อย่าง “มะนาว” จึงถูกกล่าวขานว่ามีสรรพคุณในการลดความอ้วนได้อย่างดีที่สุด
โดย “มะนาว” อุดม ไปด้วยกรดไซตริก (7-8% คือสูงที่สุดในบรรดาผลไม้ทุกๆ ประเภท) และเชียงยังระบุอีกด้วยว่า หากมะนาวถูกนำมาผสมรวมกับโปรตีนและกรดอื่น ๆ ก็จะยิ่งช่วยกระตุ้นให้น้ำย่อยในกระเพาะทำงานได้ดียิ่งขึ้น
ในคอลัมน์ The Lemon Juice Diet ยังออกมาสนับสนุนให้ประชาชนวางแผนเมนูการทำอาหารในแต่ละมื้อว่า ต้องมีมะนาวรวมอยู่ด้วย หรือดัดแปลงรสชาติอาหารให้มีรสเปรี้ยวถูกปากมากยิ่งขึ้น โดยกล่าวว่า หากคุณทำตามกฎหลักทั้ง 3 ข้อนี้ คุณจะน้ำหนักลดลงได้ดั่งใจปรารถนา
1. ดื่มน้ำมะนาวกับน้ำอุ่นทุก ๆ เช้า
เพื่อกระตุ้นระบบย่อยอาหารให้ทำงานดียิ่งขึ้น มะนาวเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีมากที่สุด ไม่เพียงแต่จะดีสำหรับช่วยลดไข้ได้ แต่มันยังมีผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยแอริโซนา แนะนำมาว่า ใครที่กินผลไม้และผักที่มีวิตามินซีในปริมาณที่มาก จะมีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหาร และจะช่วยให้น้ำหนักลดได้ดีกว่าวิธีอื่น ๆ อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น น้ำมะนาวยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมให้กักเก็บเอาไว้ในเซลล์ไขมัน ผลวิจัยยังแสดงอีกว่า แคลเซียมที่มีอยู่ในเซลล์ไขมันปริมาณมาก ๆ จะช่วยเผาผลาญไขมันได้ดียิ่งขึ้น
2. รับประทานผักและผลไม้อย่างน้อยวันละ 5 ชนิด
เพราะผักและผลไม้ทุกประเภท จะมีปริมาณแคลอรีที่น้อยมาก แต่อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ เส้นใย และสารอาหารที่ครบครัน จะช่วยในการปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย ช่วยให้ระบบประสาททำงานอย่างสงบลง
3. ปรับสมดุลของระดับน้ำตาลในเลือด
โดยการบีบน้ำมะนาวลงไปในมื้ออาหารทุกมื้อ หรือผสมเปลือกมะนาวลงไปในซุปหรือสลัด และบีบมะนาวเพียงเล็กน้อยโปรยลงบนเนื้อปลา และเนื้อไก่ก่อนรับประทาน แล้วจะรู้ว่ามะนาวคือเส้นใยที่มหัศจรรย์ที่สุด เพราะมะนาวจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงด้วย
นอกจากนี้ผลการศึกษาของวิทยาลัย Journal of the America College of Nutrition รายงานว่า คาร์โบไฮเดรตที่พบในผิวเปลือกของมะนาว จะสามารถกำจัดความอยากกินให้ลดลงได้ถึง 4 ชั่วโมง เปลือกมะนาวเป็นแหล่งรวมไฟเบอร์ที่ดีที่สุด ช่วยให้ระบบย่อยอาหารสามารถดูดซึมน้ำตาลได้เร็วยิ่งขึ้น หลังจากที่คุณกินมัน คุณจะรู้สึกอิ่มไปอีกนานเลยทีเดียว
ใครจะคิดว่า “มะนาว” จะมีประโยชน์และสรรพคุณในการลดน้ำหนักที่ให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่ง ที่พิเศษไปกว่านั้นคือมันทำให้เรากินเนย โปรตีน ช็อกโกแลตและไอศกรีมได้อย่างสบายใจ คุณสามารถกินได้เท่าที่ใจอยากจะกิน โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องของแคลอรี