ยันวิสามัญ ชัยภูมิ ป่าแส เป็นการป้องกันตัว ชี้อีกฝ่ายพยายามปาระเบิด

กองทัพบก แจงเหตุวิสามัญ ชัยภูมิ ป่าแส นักกิจกรรมและนักเรียกร้องสิทธิ เพราะอีกฝ่ายพยายามหนี แถมจะปาระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ จึงจำเป็นต้องป้องกันตัว
          จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารวิสามัญ นายชัยภูมิ ป่าแส  อายุ 17 ปี ประธานเครือข่ายต้นกล้า จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 เนื่องจากตรวจพบว่ามีการซุกยาบ้าและพยายามปาระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ แต่ประเด็นนี้กลับถูกวิจารณ์อย่างหนัก เพราะดูเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ นอกจากนี้นายชัยภูมิ ยังเป็นเด็กกิจกรรมที่ออกมาต่อสู้เพื่อเรียกร้องเพื่อสิทธิให้กับชาวเผ่าไร้สัญชาติ รวมทั้งเป็นนักดนตรี ออกค่ายอาสา และทำหนังสั้นส่งประกวด ทำให้ช่วงหลังมีปัญหากับทหารและสาเหตุการตายก็มีเงื่อนงำ


          ล่าสุด วันที่ 20 มีนาคม 2560 พ.อ. วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษก คสช. กล่าวว่า จากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้นพบว่า เจ้าหน้าที่ทหาร สังกัดกองร้อยทหารม้าที่ 2 บก.ควบคุมที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 5 ได้จัดตั้งจุดตรวจค้นยาเสพติด บริเวณสามแยกรินหลวง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ พบรถยนต์ฮอนด้าแจ๊ซ สีดำ ทะเบียน ขก-3774 เชียงใหม่ ซึ่งภายในรถมียาบ้า จำนวน 2.8 พันเม็ด ซุกซ่อนไว้ที่บริเวณกรองอากาศ


           เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวคนขับรถคือ นายพงศ์นัย แสงตะล้า อายุ 19 ปี แต่นายชัยภูมิ ซึ่งนั่งมาด้วยกันขัดขืนและวิ่งหนีออกจากรถ หวังหลบหนีการจับกุม ทางเจ้าหน้าทหารจึงวิ่งไล่ตาม นายชัยภูมิได้หยิบระเบิดมือที่พกไว้ออกมา และพยายามที่จะขว้างปาใส่เจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นการประสงค์ต่อชีวิต ทำให้เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงออกไปเพื่อหยุดการกระทำดังกล่าว ทั้งยังเป็นการป้องกันตัวจำนวน 1 นัด เป็นเหตุให้นายชัยภูมิเสียชีวิต


          ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ทุกคนยึดมั่นในหลักปฏิบัติที่จะพยายามดำเนินการด้วยวิธีการที่ละมุนละม่อม หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงให้ได้มากที่สุด และจะใช้อาวุธต่อเมื่อมีความจำเป็นเท่านั้น

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Sirirat Koi, Burgaq Mazev

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก