ตม.ไทยรวบมาเฟียต่างชาติ ตั้งแก๊งใหญ่คุมพัทยา-บางคนมีโรคติดต่อร้ายแรง

ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองแถลงผลการจับกุมแก๊งมาเฟียและกลุ่มผู้มีอิทธิพลเมืองพัทยา พบเป็นชายชาวต่างชาติ 14 ราย มีประวัติหลบหนีหมายจับ - พัวพันยาเสพติด บางรายมีโรคติดต่อร้ายแรง ตระเวนมีเพศสัมพันธ์กับหญิงไทย

          วันที่ 20 มีนาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท. ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงผลการจับกุมแก๊งมาเฟียและกลุ่มผู้มีอิทธิพลต่างชาติ ที่ตั้งตัวเป็นขาใหญ่ ข่มขู่ คุกคาม และเกี่ยวพันกับธุรกิจมืดตามแหล่งท่องเที่ยว รวม 14 ราย เป็นชาวรัสเซีย 6 ราย ยูเครน 1 ราย เบลารุส 1 ราย อุซเบกิสถาน 4 ราย โมร็อคโค 1 ราย และอิหร่าน 1 ราย


         ทั้งนี้ พล.ต.ท. ณัฐธร กล่าวว่า การสนธิกำลังกวาดล้างคนต่างชาติผิดกฎหมาย ที่ตั้งตนเป็นกลุ่มแก๊งผู้มีอิทธิพล ได้รับความร่วมมือและประสานข้อมูลกับทูตแต่ละประเทศและตำรวจสากล ซึ่งผู้ต้องหาในจำนวนนี้ถือเป็นอาชญากรรัสเซียหนีคดีสำคัญที่มีทั้งหมายจับของตำรวจรัสเซียและหมายจับตำรวจสากล ในคดีที่เกี่ยวกับยาเสพติดและคดีการเงินรวมอยู่ด้วย โดยจะลักลอบเข้ามาตั้งแก๊งทำงานและประกอบธุรกิจมืดที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว อาทิ ร้านอาหาร สถานบันเทิง ยาเสพติด ในพื้นที่เมืองพัทยา


          โดยหนึ่งในผู้ต้องหาที่สามารถจับกุมตัวได้ คือ นายอเล็กซานเดอร์ ดานีล๊อฟ (Aleksandr Danilov) อายุ 43 ปี สัญชาติรัสเซีย ผู้ต้องหามีประวัติเคยถูกจับกุมและดำเนินคดีข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติดมาก่อน ซึ่งถือว่าเป็นบุคคลที่มีพฤติการณ์เป็นภัยสังคม เข้าข่ายลักษณะต้องห้าม ตาม มาตรา 12 (7) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ โดยจากจากตรวจสอบข้อมูลการเดินทางเข้า-ออก พบว่า นายอเล็กซานเดอร์ ได้เดินทางเข้ามาและได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทยได้ถึงวันที่ 29 พฤษภาคม 2555 ซึ่งนับว่าอยู่เกินกำหนด (Overstay) เป็นระยะเวลาถึง 4 ปี 7 เดือน 18 วัน


          อย่างไรก็ดี พล.ต.ท. ณัฐธร ระบุว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นโรคติดต่อที่เป็นอันตรายร้ายแรง ซึ่งเมื่อเช็กกับทางการรัสเซียแล้วก็พบว่า หลบหนีการรักษาตัวมาใช้ชีวิตเพลย์บอยอยู่ในเมืองพัทยา นับแรมปี ซึ่งน่าเป็นห่วง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ผลักดันผู้ต้องหาที่มีเชื้อโรคติดต่อร้ายแรงออกนอกประเทศแล้ว กรณีนี้ถือว่ามีหลายเคสที่รู้ตัวว่าติดโรค แล้วหลบกนีเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งเป็นที่อยู่ใหม่ สังคมใหม่ ใช้ชีวิตแบบใหม่ที่ไม่่มีใครรู้จัก



ภาพและข้อมูลจาก

, สำนักข่าว INN