วัดริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนถนนเจริญกรุง
ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนวัดใด
โดยมีลำเรือสำเภาที่ประดิษฐานพระเจดีย์อยู่ในเรือจนเป็นที่มาของชื่อวัด คือวัดยานนาวา
พระอารามหลวงชั้นตรี การเดินทางมาเยี่ยมวัดนั้นก็สะดวกมาก สามารถมาโดย MRT
ขึ้นสถานีสีลมหรือ BTS ลงสถานีศาลาแดง แล้วต่อโดยสารรถประจำทางเส้นสีลมสาย
105 ผ่านโรบินสันสีลม วัดอยู่ริมถนนขวามือ
เมื่อเข้าไปภายในวัด จะได้นมัสการหลวงพ่อทันใจยานนาวา หรือ “พระพุทธชยันตีปสฤทธวรมงคล” สร้างในวโรกาสที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ครบ 2,600 ปี นมัสการพระโพธิสัตว์กวนอิมหยกขาว เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยะเทพเจ้าไต้ส่วยเอี๊ยะ พระอวโลกิเตศวร และพระพุทธบาทจำลอง
วัดยานนาวาเป็นวัดที่มีมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อว่าวัดคอกควาย ไม่ปรากฏชื่อผู้สร้าง เนื่องจากมีชาวทวายมาอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก แล้วได้นำกระบือมาเลี้ยงไว้ซื้อขายแลกเปลี่ยนกัน ได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงในสมัยธนบุรีเปลี่ยนชื่อเป็นวัดคอกกระบือ สมัยรัชกาลที่ 1 มีการสร้างพระอุโบสถใหม่ สมัยรัชกาลที่ 3 ได้รับการปฏิสังขรณ์และสร้างเรือสำเภาเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดเท่าจริงเพื่อบันทึกประวัติศาสตร์ด้วยทรงคาดว่าเรือสำเภาจะถูกเลิกใช้ไปในที่สุด ภายในมีพระเจดีย์ 2 องค์แทนเสากระโดงเรือ องค์ใหญ่เป็นฐานย่อมุมไม้ 25 องค์เล็กฐานย่อมุมไม้ 16 ลำเรือยาว 21 วา 2 ศอก จึงเรียกว่าสำเภาเจดีย์ มีแห่งเดียวในประเทศไทย ด้านหน้าเป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ของสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทางเข้าอยู่ใต้ท้องเรือแล้วจึงขึ้นไปนมัสการพระพุทธรูปชั้นบนลำเรือและชมภูมิทัศน์อันสวยงามโดยรอบ
พระอุโบสถกำลังบูรณะแต่สามารถเข้าไปนมัสการหลวงพ่อด้านในได้ ภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นรูปโคมลอยประทีปและโถยาคูที่ใช้เลี้ยงพระในพิธีสารท พระประธานเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ
เดินไปด้านหลังเป็นบริเวณลานจอดรถและท่าน้ำ มีบริการเรือท่องเที่ยวตามวัด ให้อาหารปลา นก ปล่อยปลา จากตรงนี้สามารถมองเห็นเอเชียทีคได้
ด้านข้างเรือสำเภาเป็นอาคารมหาเจษฎาบดินทร์ เป็นอาคารอเนกประสงค์ 3 ชั้นทรงไทย หอพระไตรปิฎก ศูนย์หนังสือยานนาวาบรรณาคาร และชั้น 3 เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้วจากศรีลังกา ด้านบนสามารถมองเห็นลำเรือได้ทั้งหมด
วัดยานนาวาเป็นวัดเก่าแก่และมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนที่ใด ทั้งยังเป็นดั่งหลักฐานวัตถุจริงทางประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงความรุ่งเรืองทางการค้าขายทางน้ำโดยสำเภาจีน อีกทั้งมีภูมิทัศน์ที่สวยงามและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้กราบไหว้ขอพรหลายแห่ง หากได้ผ่านมาไม่ควรพลาดแวะท่องเที่ยวเยี่ยมชมเสริมบุญบารมีให้แข็งแกร่งดั่งเรือสำเภาฟันฝ่ามรสุมไปยังฝั่งได้อย่างปลอดภัยทุกประการ
ที่มา http://travel.thaiza.com/
เมื่อเข้าไปภายในวัด จะได้นมัสการหลวงพ่อทันใจยานนาวา หรือ “พระพุทธชยันตีปสฤทธวรมงคล” สร้างในวโรกาสที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ครบ 2,600 ปี นมัสการพระโพธิสัตว์กวนอิมหยกขาว เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยะเทพเจ้าไต้ส่วยเอี๊ยะ พระอวโลกิเตศวร และพระพุทธบาทจำลอง
วัดยานนาวาเป็นวัดที่มีมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อว่าวัดคอกควาย ไม่ปรากฏชื่อผู้สร้าง เนื่องจากมีชาวทวายมาอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก แล้วได้นำกระบือมาเลี้ยงไว้ซื้อขายแลกเปลี่ยนกัน ได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงในสมัยธนบุรีเปลี่ยนชื่อเป็นวัดคอกกระบือ สมัยรัชกาลที่ 1 มีการสร้างพระอุโบสถใหม่ สมัยรัชกาลที่ 3 ได้รับการปฏิสังขรณ์และสร้างเรือสำเภาเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดเท่าจริงเพื่อบันทึกประวัติศาสตร์ด้วยทรงคาดว่าเรือสำเภาจะถูกเลิกใช้ไปในที่สุด ภายในมีพระเจดีย์ 2 องค์แทนเสากระโดงเรือ องค์ใหญ่เป็นฐานย่อมุมไม้ 25 องค์เล็กฐานย่อมุมไม้ 16 ลำเรือยาว 21 วา 2 ศอก จึงเรียกว่าสำเภาเจดีย์ มีแห่งเดียวในประเทศไทย ด้านหน้าเป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ของสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทางเข้าอยู่ใต้ท้องเรือแล้วจึงขึ้นไปนมัสการพระพุทธรูปชั้นบนลำเรือและชมภูมิทัศน์อันสวยงามโดยรอบ
พระอุโบสถกำลังบูรณะแต่สามารถเข้าไปนมัสการหลวงพ่อด้านในได้ ภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นรูปโคมลอยประทีปและโถยาคูที่ใช้เลี้ยงพระในพิธีสารท พระประธานเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ
เดินไปด้านหลังเป็นบริเวณลานจอดรถและท่าน้ำ มีบริการเรือท่องเที่ยวตามวัด ให้อาหารปลา นก ปล่อยปลา จากตรงนี้สามารถมองเห็นเอเชียทีคได้
ด้านข้างเรือสำเภาเป็นอาคารมหาเจษฎาบดินทร์ เป็นอาคารอเนกประสงค์ 3 ชั้นทรงไทย หอพระไตรปิฎก ศูนย์หนังสือยานนาวาบรรณาคาร และชั้น 3 เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้วจากศรีลังกา ด้านบนสามารถมองเห็นลำเรือได้ทั้งหมด
วัดยานนาวาเป็นวัดเก่าแก่และมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนที่ใด ทั้งยังเป็นดั่งหลักฐานวัตถุจริงทางประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงความรุ่งเรืองทางการค้าขายทางน้ำโดยสำเภาจีน อีกทั้งมีภูมิทัศน์ที่สวยงามและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้กราบไหว้ขอพรหลายแห่ง หากได้ผ่านมาไม่ควรพลาดแวะท่องเที่ยวเยี่ยมชมเสริมบุญบารมีให้แข็งแกร่งดั่งเรือสำเภาฟันฝ่ามรสุมไปยังฝั่งได้อย่างปลอดภัยทุกประการ
ที่มา http://travel.thaiza.com/