อย่าดูคนที่ภายนอก???..เด็กเนื้อตัวมอมเเมมสละที่นั่งให้เเก่หญิงท้องเเก่!!…เเต่เธอไม่ยอมนั่ง?..เด็กชายเลยทำสิ่งนี้
ทำเอาคนสนใจทั้งรถ???
คนที่เป็นแม่ จะเป็นครูที่ดีที่สุดสำหรับลูกๆของตัวเอง ก็เช่นเดียวกันกับเด็กชายรายนี้ นี้เป็นเรื่องราวที่เราทุกคนควรอ่านและน่าคิดจริงๆ….
เรื่องราวที่ วันนี้เราเอามาเสนอมันเกิดขึ้นบนรถประจำทางคันหนึ่ง มีวันหนึ่งรถประจำทางคันนี้ที่เต็มไปด้วยผู้โดยสาร ได้มีเด็กชายคนหนึ่งแต่งตัวไม่ค่อยดีเท่าไรและแบกกระเป๋าผ้าขึ้นรถมาพร้อม กับผู้ชายคนหนึ่ง พอดีมีคนลงก็เลยมีที่นั่ง เด็กชายคนนี้ก็เลยนั่งลง และผู้ชายที่ขึ้นมาพร้อมกันก็ยืนอยู่ข้างๆ
ไม่นาน ก็มีคนท้องคนหนึ่งขึ้นรถคันนี้ เมื่อเด็กชายคนนี้เห็นแล้วรีบยืนขึ้นเพื่อที่จะสละที่นั่งให้กับคนท้อง “คุณป้าครับ เชิญนั่ง”
คน ท้องคนนั้นดูการแต่งกายของเด็กแล้วก็ไม่นั่งและไม่ตอบอะไร แถมยังทำหน้าแสดงความรำคาญออกมาอีกด้วย เมื่อเด็กชายเห็นการแสดงออกของหญิงท้องแล้วก็เลยวางกระเป๋าผ้าของตัวเองไว้ บนพื้นเบาๆแล้วหยิบทิชชูออกมาและเช็ดเก้าอี้ให้กับคนท้อง พร้อมกับยิ้มและพูดกับคนท้องว่า “คุณป้า หนูเช็ดทำความสะอาดแล้ว ไม่สกปรกแล้วครับ”
ท่ามกลางสายตาของผู้โดยสารทุกคน คนท้องได้นั่งลงพร้อมใบหน้าที่ดูเขินอาย
เมื่อ เด็กชายหยิบกระเป๋าผ้าขึ้นมา รถประจำทางก็ได้เบรกอย่างกะทันหัน เขาเกือบจะล้มลง แต่เขาก็ยังพายายามอุ้มกระเป๋าผ้านั้นในแขนแบบระมัดระวังมาก
ผู้หญิงที่นั่งข้างๆเห็นการกระทำของเขาแล้วชมเขาว่า: เป็นเด็กดีจริงๆ
เด็ก ชายยิ้มแบบซื่อๆแล้วตอบว่า: คุณป้าครับ จริงๆแล้วหนูยังไม่ดีพอหรอก หนูโดนแม่ของหนูว่าประจำว่า หนูสนใจสายตาการมองของคนอื่นมากเกินไปแต่ตอนนี้หนูกล้าหาญมาก เหมือน Forrest Gump เลย
เมื่อคนท้องคนนั้นได้ยินคำพูดของเด็กชายแล้วก็รีบก้มหน้าลง
ผู้หญิงที่ชมเด็กชายรู้สึกแปลกใจและถามว่า: หนูรู้จักForrest Gumpด้วยหรือ
ครับ แม่ของหนูให้หนูดู
ดู《Forrest Gump》แล้วหนูได้อะไรจากหนังเรื่องนั้น?
ไม่ต้องสนใจกับสายตาการมองของคนอื่น เราเดินทางไปด้านหน้าด้วยตัวเราเอง แต่ละคนก็พิเศษมากในโลกนี้ เหมือนกับช็อคโกแลตชนิดต่างๆ….
แล้วแม่ของหนูทำงานอะไรอยู่ล่ะ
แม่หนูเคยเป็นครูในชนบทครับ
แล้วตอนนี้ล่ะ?
เด็กชายเริ่มตาแดงพร้อมตอบว่า “แม่ตอนนี้อยู่ในถุงใบนี้ครับ”
ผู้โดยสารคนรอบๆเริ่มสนใจและหันมามองดู และแล้วผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆคนนั้นก็อธิบายต่อว่า:
เขา เป็นน้าของเด็กชายคนนี้ พ่อของเด็กได้เสียชีวิตจากการป่วยหนักเมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว สำหรับแม่ของเด็กเคยเป็นครูสอนหนังสือในหมู่บ้านของพวกเขา ทุกคนต่างก็เคารพเธอมาก แต่เพื่อที่จะให้ลูกมีชีวิตที่ดีกว่า เธอเลยพาลูกไปหางานก่อสร้างในเมืองทำในช่วงปิดเทอม แต่เมื่อใกล้เวลาที่จะเปิดเทอม เธอได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเหล็กเส้นได้หล่นลงมาใส่จากที่สูงและเสีย ชีวิตลง…. และในถุงนั้นเป็นโกศกระดูกของเธอ
ผู้หญิงคนนั้นได้ฟังแล้วน้ำตาไหลพร้อมกับถามว่า “หนูจะเรียนต่อไหม”
ชายที่เป็นน้าได้ยินแล้วก็ส่ายหัว แต่เด็กชายกล่าวว่า: หนูจะไปอ่านหนังสือในร้านขายหนังสือที่ติดกับสถานที่ก่อสร้างทุกวัน….
ผู้ โดยสารหลายๆคนก็พูดกับเด็กชายว่า ในบ้านของพวกเขามีหนังสือมากมาย พวกเขาสามารถส่งหนังสือให้เด็กชายได้ เด็กชายฟังแล้วก็ยิ้มให้ทุกคน….
เพราะ เด็กชายคนนี้มีคุณแม่ที่ทั้งขยันและชาญฉลาด จึงได้สอนสิ่งที่ดีๆให้กับเด็กไว้ ไม่ว่าอนาคตของเขาจะเป็นยังไง อย่างน้อย ณ ตอนนี้เขาสามารถทำสิ่งที่ตัวเองเป็นได้อย่างกล้าหาญ และพยายามอ่านหนังสือเพื่อไล่ตามความฝันเล็กๆของตัวเอ
เพราะความยากจน ทำให้เด็กหลายคนมักจะรู้สึกว่าตัวเองจะต่ำกว่าคนอื่น แต่คุณแม่ผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ได้สอนให้ลูกชายเข้าใจว่า แม้เราจะยากจนมาก แต่เราก็มีฐานะเท่าเทียมกันกับทุกคน โดยนำทัศนคติที่ร่าเริง มาอภัยการดูถูกจากคนอื่นๆ อย่าไปสนใจและใส่ใจสายตาการมองของคนอื่นๆเลย
เพื่อนทุกๆคน หลังจากที่ได้ดูแล้ว ช่วยแชร์เรื่องราวที่น่าประทับใจนี้ออกไปให้ทุกๆคนได้ดูด้วยกัน
คนที่เป็นแม่ จะเป็นครูที่ดีที่สุดสำหรับลูกๆของตัวเอง ก็เช่นเดียวกันกับเด็กชายรายนี้ นี้เป็นเรื่องราวที่เราทุกคนควรอ่านและน่าคิดจริงๆ….
เรื่องราวที่ วันนี้เราเอามาเสนอมันเกิดขึ้นบนรถประจำทางคันหนึ่ง มีวันหนึ่งรถประจำทางคันนี้ที่เต็มไปด้วยผู้โดยสาร ได้มีเด็กชายคนหนึ่งแต่งตัวไม่ค่อยดีเท่าไรและแบกกระเป๋าผ้าขึ้นรถมาพร้อม กับผู้ชายคนหนึ่ง พอดีมีคนลงก็เลยมีที่นั่ง เด็กชายคนนี้ก็เลยนั่งลง และผู้ชายที่ขึ้นมาพร้อมกันก็ยืนอยู่ข้างๆ
ไม่นาน ก็มีคนท้องคนหนึ่งขึ้นรถคันนี้ เมื่อเด็กชายคนนี้เห็นแล้วรีบยืนขึ้นเพื่อที่จะสละที่นั่งให้กับคนท้อง “คุณป้าครับ เชิญนั่ง”
คน ท้องคนนั้นดูการแต่งกายของเด็กแล้วก็ไม่นั่งและไม่ตอบอะไร แถมยังทำหน้าแสดงความรำคาญออกมาอีกด้วย เมื่อเด็กชายเห็นการแสดงออกของหญิงท้องแล้วก็เลยวางกระเป๋าผ้าของตัวเองไว้ บนพื้นเบาๆแล้วหยิบทิชชูออกมาและเช็ดเก้าอี้ให้กับคนท้อง พร้อมกับยิ้มและพูดกับคนท้องว่า “คุณป้า หนูเช็ดทำความสะอาดแล้ว ไม่สกปรกแล้วครับ”
ท่ามกลางสายตาของผู้โดยสารทุกคน คนท้องได้นั่งลงพร้อมใบหน้าที่ดูเขินอาย
เมื่อ เด็กชายหยิบกระเป๋าผ้าขึ้นมา รถประจำทางก็ได้เบรกอย่างกะทันหัน เขาเกือบจะล้มลง แต่เขาก็ยังพายายามอุ้มกระเป๋าผ้านั้นในแขนแบบระมัดระวังมาก
ผู้หญิงที่นั่งข้างๆเห็นการกระทำของเขาแล้วชมเขาว่า: เป็นเด็กดีจริงๆ
เด็ก ชายยิ้มแบบซื่อๆแล้วตอบว่า: คุณป้าครับ จริงๆแล้วหนูยังไม่ดีพอหรอก หนูโดนแม่ของหนูว่าประจำว่า หนูสนใจสายตาการมองของคนอื่นมากเกินไปแต่ตอนนี้หนูกล้าหาญมาก เหมือน Forrest Gump เลย
เมื่อคนท้องคนนั้นได้ยินคำพูดของเด็กชายแล้วก็รีบก้มหน้าลง
ผู้หญิงที่ชมเด็กชายรู้สึกแปลกใจและถามว่า: หนูรู้จักForrest Gumpด้วยหรือ
ครับ แม่ของหนูให้หนูดู
ดู《Forrest Gump》แล้วหนูได้อะไรจากหนังเรื่องนั้น?
ไม่ต้องสนใจกับสายตาการมองของคนอื่น เราเดินทางไปด้านหน้าด้วยตัวเราเอง แต่ละคนก็พิเศษมากในโลกนี้ เหมือนกับช็อคโกแลตชนิดต่างๆ….
แล้วแม่ของหนูทำงานอะไรอยู่ล่ะ
แม่หนูเคยเป็นครูในชนบทครับ
แล้วตอนนี้ล่ะ?
เด็กชายเริ่มตาแดงพร้อมตอบว่า “แม่ตอนนี้อยู่ในถุงใบนี้ครับ”
ผู้โดยสารคนรอบๆเริ่มสนใจและหันมามองดู และแล้วผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆคนนั้นก็อธิบายต่อว่า:
เขา เป็นน้าของเด็กชายคนนี้ พ่อของเด็กได้เสียชีวิตจากการป่วยหนักเมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว สำหรับแม่ของเด็กเคยเป็นครูสอนหนังสือในหมู่บ้านของพวกเขา ทุกคนต่างก็เคารพเธอมาก แต่เพื่อที่จะให้ลูกมีชีวิตที่ดีกว่า เธอเลยพาลูกไปหางานก่อสร้างในเมืองทำในช่วงปิดเทอม แต่เมื่อใกล้เวลาที่จะเปิดเทอม เธอได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเหล็กเส้นได้หล่นลงมาใส่จากที่สูงและเสีย ชีวิตลง…. และในถุงนั้นเป็นโกศกระดูกของเธอ
ผู้หญิงคนนั้นได้ฟังแล้วน้ำตาไหลพร้อมกับถามว่า “หนูจะเรียนต่อไหม”
ชายที่เป็นน้าได้ยินแล้วก็ส่ายหัว แต่เด็กชายกล่าวว่า: หนูจะไปอ่านหนังสือในร้านขายหนังสือที่ติดกับสถานที่ก่อสร้างทุกวัน….
ผู้ โดยสารหลายๆคนก็พูดกับเด็กชายว่า ในบ้านของพวกเขามีหนังสือมากมาย พวกเขาสามารถส่งหนังสือให้เด็กชายได้ เด็กชายฟังแล้วก็ยิ้มให้ทุกคน….
เพราะ เด็กชายคนนี้มีคุณแม่ที่ทั้งขยันและชาญฉลาด จึงได้สอนสิ่งที่ดีๆให้กับเด็กไว้ ไม่ว่าอนาคตของเขาจะเป็นยังไง อย่างน้อย ณ ตอนนี้เขาสามารถทำสิ่งที่ตัวเองเป็นได้อย่างกล้าหาญ และพยายามอ่านหนังสือเพื่อไล่ตามความฝันเล็กๆของตัวเอ
เพราะความยากจน ทำให้เด็กหลายคนมักจะรู้สึกว่าตัวเองจะต่ำกว่าคนอื่น แต่คุณแม่ผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ได้สอนให้ลูกชายเข้าใจว่า แม้เราจะยากจนมาก แต่เราก็มีฐานะเท่าเทียมกันกับทุกคน โดยนำทัศนคติที่ร่าเริง มาอภัยการดูถูกจากคนอื่นๆ อย่าไปสนใจและใส่ใจสายตาการมองของคนอื่นๆเลย
เพื่อนทุกๆคน หลังจากที่ได้ดูแล้ว ช่วยแชร์เรื่องราวที่น่าประทับใจนี้ออกไปให้ทุกๆคนได้ดูด้วยกัน