ถ้าอยากได้โปรตีนจากธัญพืชก็มาลุยทำเมนูถั่วดำ สูตรขนมเนื้อนุ่มละมุนลิ้น ทำได้ทั้งขนมไทยและขนมเทศ พ่วงเทคนิคต้มถั่วดำให้นิ่มเร็ว
ถั่วดำทำอะไรได้บ้าง ? เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงสูตรขนม โดยเฉพาะเมนูถั่วดำต้มน้ำตาลหรือถั่วดำแกงบวดที่ทำวนไปและวนมาจนเอียน คงจะดีถ้าหากจับมาทำขนมแบบอื่น ๆ แก้เซ็งได้บ้าง กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำเมนูถั่วดำ เช่น บราวนี่ถั่วดำ โดรายากิถั่วดำ และเมนูจากถั่วดำที่น่ากินอีกเพียบ อ๊ะ ๆ สำหรับใครที่เคยลองต้มถั่วดำแล้วสุกยาก หรือต้มเท่าไรก็ไม่นิ่มพาลถอดใจ ก่อนที่จะไปจดสูตรเรามีเคล็ดลับการต้มถั่วดำให้สุกนิ่มมาฝากค่ะ
1. ล้างถั่วดำให้สะอาดแล้วแช่น้ำไว้ข้ามคืน หรือแช่ในน้ำร้อนประมาณ 1 ชั่วโมง ถ้ามีเม็ดถั่วดำลอยขึ้นมาแสดงว่าเม็ดไม่สมบูรณ์ให้ตักทิ้งไป
2. ต่อมาก็เทน้ำที่แช่ถั่วดำทิ้งไปแล้วเติมน้ำสะอาดลงไปต้มประมาณ 30 นาทีหรือจนสุกนิ่ม หรืออีกวิธีคือเอาไปคั่วในกระทะให้สุกแล้วค่อยเอาไปต้มต่อจนสุกนิ่ม
3. เสร็จแล้วกรองน้ำออกเอาไปทำขนมต่อได้เลย
หลังจากอ่านเคล็ดลับต้มถั่วดำให้สุกเร็วกันไปแล้ว ต่อจากนี้เพื่อน ๆ คงได้กินถั่วดำนิ่ม ๆ สมใจแล้วล่ะ เอาล่ะ… มาเริ่มทำเมนูแรกกันเลยดีกว่า
แม้ว่าเมนูขนมไทยอย่างแกงบวดถั่วดำจะมีขายทั่วไป แต่เนื่องจากรสชาติไม่ค่อยถูกปาก เลยขอลงมือทำเองสักหม้อดีกว่า สูตรนี้ใส่น้ำตาลปี๊บ ใครจะใส่น้ำตาลทรายแทนหรือเพิ่มน้ำตาลทรายไปอีกนิดก็ได้ ถ้าใส่ใบเตยมัดปมลงไปหน่อยจะมีกลิ่นหอมมากขึ้นเชียวล่ะ
ส่วนผสม แกงบวดถั่วดำ
• ถั่วดำดิบ 1 ถ้วย
• กะทิ 2-3 ถ้วย
• น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย
• เกลือ 1/2 ช้อนชา
วิธีทำแกงบวดถั่วดำ
1. แช่ถั่วดำในน้ำประมาณ 3 ชั่วโมง (หรือข้ามคืน) จากนั้นนำมาล้างน้ำจนสะอาด
2. ต้มถั่วดำ ใช้ไฟปานกลาง ประมาณ 40 นาที หรือจนสุก เทน้ำทิ้งแล้วพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
3. ต้มกะทิพอร้อน ใส่ถั่วดำต้มสุกและเกลือลงไป ต้มให้เดือด คนเบา ๆ เป็นระยะ (เพื่อไม่ให้กะทิแตกมัน) รอจนถั่วดำสุกตามชอบ ใส่น้ำตาลปี๊บลงไป ต้มต่อจนน้ำตาลละลาย ชิมรสตามชอบ ปิดไฟ ยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงบวดถั่วดำ ถั่วดำต้มกะทิ หวานละมุนกับเทคนิคต้มถั่วเทพ ๆ
+++++++++++++
2. โดรายากิไส้ถั่วดำ
ชวนลูก ๆ มาช่วยกันทำหน่อยดีกว่า พบกับโดรายากิไส้ถั่วดำ สูตรจาก คุณ BlackPiano สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม แป้งนุ่ม ๆ แผ่นกลมประกบไส้ถั่วดำกวนรสหวานหน่อย ๆ กินกับนมสดสักแก้วรับรองฟิน
ส่วนผสม แป้งโดรายากิ • ไข่ไก่ 2 ฟอง
• น้ำตาลทราย 50 กรัม
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนกินข้าว
• น้ำผึ้ง 1 ช้อนกินข้าว
• แป้งเค้ก 100 กรัม (ร่อนผสมกับผงฟูเล็กน้อย)
• น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย
ส่วนผสม ไส้ถั่วดำกวน • ถั่วดำ 120 กรัม (แช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน)
• น้ำตาลทราย 100 กรัม
• เนยสด
วิธีทำโดรายากิ 1. แช่ถั่วดำในน้ำทิ้งไว้ 1 คืน นำถั่วดำไปต้มจนนุ่มแล้วใส่โถปั่น เติมน้ำลงไปพอท่วม ปั่นจนถั่วดำเนื้อเนียน เทใส่ภาชนะ
2. ทำถั่วดำกวน โดยใส่เกลือลงไปเล็กน้อย ใส่น้ำตาลทรายลงไป นำขึ้นตั้งไฟ พอกวนถั่วดำไปได้สักพัก ใส่เนยลงไปเล็กน้อย คนผสมให้เข้ากัน อย่ากวนจนแห้งเกินไปเพราะเวลาไส้เย็นแล้วจะแข็งเกิน กวนให้ได้ลักษณะเหลวแต่ข้นหน่อย ๆ เวลากินจะนุ่ม
หมายเหตุ : จะไม่ขอทำไส้แบบเอาถั่วไปกรองผ่านตะแกรง วิธีนั้นจะเสียเวลา แต่จะได้ไส้ที่เนียนเพราะคัดเอาเปลือกออก
3. ทำตัวแป้งโดรายากิ โดยผสมไข่กับน้ำตาลทราย ตีให้ฟู ใส่กลิ่นวานิลลา น้ำผึ้ง และแป้งเค้กร่อนแล้วกับผงฟู ตีพอส่วนผสมเข้ากันดี เติมน้ำเปล่า นำไปแช่ตู้เย็นไว้ 30 นาที
4. พอครบเวลาตักแป้งหยอดเป็นแผ่นวงกลมแบบแพนเค้กลงในกระทะ พอแป้งเริ่มมีฟองอากาศคือเริ่มสุกก็ให้พลิกกลับอีกด้าน ทอดจนแป้งสุกทั้งสองด้าน
5. บีบไส้ถั่วดำกวนให้มีลักษณะนูน ๆ ลงไปตรงกลางแผ่นแป้งโดรายากิ แล้วก็เอาแป้งอีกแผ่นประกบ เวลาพลิกอีกด้าน อย่าให้แป้งสุกจนเหลืองเกิน เพราะเวลาเอามาประกบจะไม่ติดกันนะ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ โดรายากิไส้ถั่วดำ ไส้แน่นแป้งนุ่มหวานน้อยอร่อยเต็มคำ
+++++++++++++
3. บราวนี่ถั่วดำไร้แป้ง
ใครรักสุขภาพอยากให้ลองทำเมนูบราวนี่ถั่วดำไร้แป้ง สูตรจาก คุณ LittleFilmz สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับถั่วดำผสมกับผงโกโก้และกลิ่นวานิลลา เติมรสหวานจากหญ้าหวาน โรยอัลมอนด์เพิ่มความสวยงาม
ส่วนผสม บราวนี่ถั่วดำ (สูตรไร้แป้ง) • ถั่วดำต้มสุก 1+1/2 ถ้วยตวง
• ไข่ไก่ 3 ฟอง
• ผงโกโก้ (แบบไม่หวาน) 1/4 ถ้วยตวง
• สารสกัดจากหญ้าหวาน (Stevia) 3 ช้อนชา (เพิ่ม-ลดตามความชอบ หรือใช้น้ำตาล 3/4 ถ้วยตวง)
• เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
• ผงฟู 1/2 ช้อนชา
• เบกกิ้งโซดา 1/4 ช้อนชา
• น้ำมันมะพร้าว (หรือน้ำมันดอกคาโนลา) 3 ช้อนโต๊ะ
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา (ในสูตรใช้ Vanilla Extract เพราะถ้าเป็น Vanilla Essence อาจจะต้องใส่มากหน่อย)
• ช็อกโกแลตชิพ หรือถั่วต่าง ๆ ตามชอบ
วิธีทำบราวนี่ถั่วดำ 1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้
2. นำถั่วดำ ไข่ไก่ ผงโกโก้ สารสกัดจากหญ้าหวาน เกลือป่น ผงฟู เบกกิ้งโซดา น้ำมันมะพร้าว และกลิ่นวานิลลา ใส่ลงในเครื่องปั่น ปั่นให้เนียนสวยงาม
3. เทส่วนผสมลงในพิมพ์ หรือถาดทนความร้อนที่จะเอาเข้าเตาอบ (ในสูตรไม่ได้ทาเนยหรือรองกระดาษไข) โรยช็อกโกแลตชิพลงไป หรือจะผสมลงไปในเนื้อขนมเลยก็ได้ (ในสูตรผสมช็อกโกแลตชิพลงไปในเนื้อบราวนี่) สุดท้ายก็โรยอัลมอนด์
4. นำเข้าเตาอบประมาณ 20-25 นาที (เช็กความสุกด้วยไม้จิ้มฟัน ถ้าไม่มีเนื้อขนมติดไม้ออกมาเป็นอันใช้ได้) ข้อควรระวังอย่าอบนานไปเพราะเนื้อขนมจะแห้ง ตัดออกมาใส่จานเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ บราวนี่ถั่วดำไร้แป้ง ขนมหวานแต่ไม่อ้วน คนลดน้ำหนักมีเฮ
+++++++++++++
4. ซุปถั่วดำ
เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยมาดูแลสุขภาพของคนพิเศษด้วยเมนูซุปถั่วดำ สูตรจาก นิตยสาร Health & Cuisine ส่วนผสมมีแค่ถั่วดำกับน้ำเปล่า ต้มจนถั่วเปื่อยและน้ำข้นตามชอบ
ส่วนผสม ซุปถั่วดำ • ถั่วดำ 250 กรัม
• น้ำเปล่า 10 ถ้วย
• เกลือป่น (เล็กน้อย)
• พริกไทยป่น (เล็กน้อย)
วิธีทำซุปถั่วดำ 1. ต้มถั่วดำกับน้ำด้วยไฟอ่อน ต้มไปเรื่อย ๆ จนน้ำข้น
2. ปรุงรสด้วยเกลือป่นและพริกไทยป่นเล็กน้อยตักเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 3 สูตรอาหารต้านมะเร็งรังไข่ กินป้องกันไว้ห่างไกลโรคร้าย
+++++++++++++
5. ตือคาโค ขนมขาหมู
ปาร์ตี้นี้ของทอดต้องมา พบกับเมนูตือคาโค หรือขนมขาหมู สูตรจาก คุณ TaYo76 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับแป้งผสมกับถั่วดำและเผือก ทอดจนสุกแล้วหั่นชิ้นจัดเสิร์ฟกับน้ำจิ้มถั่วคั่ว
ส่วนผสม ตือคาโค • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง
• น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
• กะทิ 1 ถ้วยตวง
• เผือกหั่นเป็นเส้น 1/2 หัว
• ถั่วดำต้มสุก 3/4 ถ้วยตวง
• เกลือ 1 ช้อนชา
• น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
ส่วนผสม น้ำจิ้มตือคาโค • น้ำมะขามเปียกเข้มข้น 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
• น้ำตาลปี๊บ 3-4 ช้อนโต๊ะพูน
• พริกแดงโขลกหยาบ 4-5 เม็ด
• ถั่วลิสงคั่วโขลก 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำตือคาโค 1. นำแป้งข้าวเจ้า แป้งสาลีอเนกประสงค์ น้ำเปล่า กะทิ เผือกหั่น และถั่วดำต้มสุก ใส่ลงไปในภาชนะ ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน เติมเกลือ ตักส่วนผสมใส่กระบวยแล้วนำลงไปทอดในน้ำมันร้อน ๆ ประมาณ 5-7 นาทีจนสุกเหลือง ตักขึ้นมาใส่ภาชนะ
2. ทำน้ำจิ้มตือคาโค โดยใส่น้ำเปล่าลงไปในหม้อ ตามด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ และพริกแดงโขลกลงไป คนให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วยแล้วใส่ถั่วลิสง เสิร์ฟกับตือคาโค
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ตือคาโค ขนมขาหมู เมนูของทอดเจหากินยากพร้อมน้ำจิ้มสูตรเด็ด
+++++++++++++
6. ข้าวต้มมัดถั่วดำ
ตามคำเรียกร้องของเด็ก ๆ เลยยอมทำเมนูข้าวต้มมัด สูตรจาก คุณ Rin's Cookbook (#Rinscookbook) จับข้าวเหนียวผัดกับกะทิจนขึ้นเงาแล้วห่อไส้ตามชอบและโปะถั่วดำต้มสุก
ส่วนผสม ข้าวต้มมัด • ข้าวเหนียวเขี้ยวงูดิบ 2 ถ้วยตวง
• ถั่วดำ 1/2 ถ้วยตวง
• หัวกะทิ 3 ถ้วยตวง
• เกลือป่น 2 ช้อนชา
• ใบเตย
• น้ำตาลทราย 1+1/2 ถ้วยตวง
• กล้วยน้ำว้า 16-18 ลูก (หรือเผือกกวน)
อุปกรณ์ • ใบตองชั้นใน ขนาด 6x8 นิ้ว
• ใบตองชั้นนอก ขนาด 8x9 นิ้ว
• ตอก แช่น้ำให้นิ่มประมาณ 2-3 ชั่วโมง (หรือเชือก สำหรับห่ออาหาร)
วิธีทำข้าวต้มมัด 1. ล้างข้าวเหนียวเขี้ยวงูประมาณ 2 ครั้ง นำไปแช่น้ำ สะอาดประมาณ 4 ชั่วโมงขึ้นไป หรือข้ามคืน พอแช่ครบเวลาตักขึ้นสะเด็ดน้ำ พักไว้
2. ล้างถั่วดำให้สะอาดแช่น้ำไว้ข้ามคืน นำไปต้มในน้ำเดือดพล่านประมาณ 30-40 นาที ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ พักไว้
3. ใส่หัวกะทิกับเกลือป่นลงในกระทะ นำขึ้นตั้งใช้ไฟปานกลางโดยคนไปในทิศทางเดียวกัน จากนั้นใส่ใบเตยลงไป
4. พอกะทิเดือดพล่านใส่ข้าวเหนียวลง ไปคนไปทิศทางเดียวกันเบา ๆ ด้วยพายยาง หรือพายไม้ อย่าคนมากจนเกินไปไม่เช่นนั้นเม็ดข้าวเหนียวจะหักและไม่สวย
5. พอคนไปประมาณ 2-3 นาที ข้าวเหนียวจะดูดซึมกะทิ ทำให้กะทิลดลงไปเยอะ ผัดต่ออีกประมาณ 5-6 นาที จากนั้นปรับเป็นไฟอ่อน ข้าวเหนียวจะแห้งตัวลงเกือบสุก
6. ใส่น้ำตาลทรายลงไปแล้วคนไปเรื่อย ๆ คนจนข้าวเหนียวขึ้นเงา ปิดไฟ
7. ปอกเปลือกกล้วยแล้วผ่าครึ่ง เตรียมไว้
8. วางใบตอง 2 ใบซ้อนกัน โดยหันด้านที่เป็นมันประกบกัน ตักถั่วดำใส่ลงไปตามชอบ ตักข้าวเหนียวลงไปประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ จากนั้นวางกล้วยตามลงไป ตักข้าวเหนียวอีกหนึ่งช้อนลงไปปิดทับหน้ากล้วย
9. พับใบตองครึ่งหนึ่งให้เป็นรูปสามเหลี่ยมให้เหลื่อมกันนิดหน่อย ต่อมาจึงพับปลายใบตองลงมาครึ่งหนึ่ง และพับอีกครึ่งหนึ่งลงมาให้สวยงาม
10. พับเก็บริมใบตองขึ้นมาด้านหนึ่ง เริ่มจับจีบอีกด้านโดยให้จับห่อใบตองในลักษณะตั้งขึ้นแล้วก็ใช้นิ้วชี้มือขวากดไขว้ใบตองไปทางซ้าย ต่อมาก็กดพับใบตองโดยเก็บริมปลายใบตองลงมาให้สวยงาม อีกด้านก็ทำเช่นเดียวกัน พอทำครบก็จับทั้งสองชิ้นมาประกบกัน โดยหันด้านในชนกัน
11. นำตอกมามัดให้แน่นเป็น 2 เปลาะ เก็บปลายตอกให้สวยงาม
12. นำข้าวต้มมัดไปวางเรียงในชุดนึ่ง นำไปตั้งบนน้ำเดือดพล่าน ใช้ไฟแรงนึ่งประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที ถึง 2 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับขนาดของข้าวต้มมัด และการผัดข้าวเหนียวว่าสุกมากน้อยแค่ไหน) ยกออกจากเตา พักไว้ให้เย็น พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ข้าวต้มมัด สูตรขนมไทยหวานมันอร่อยมัดใจ
+++++++++++++
7. ซาลาเปาไส้ถั่วดำ
อาหารว่างยามบ่ายต้องนี่เลย ขอนำเสนอเมนูซาลาเปาไส้ถั่วดำ สูตรแป้งซาลาเปาง่าย ๆ พอนวดเสร็จก็ห่อไส้ถั่วดำแล้วรอจนขึ้นฟู พอครบเวลาก็เอาไปนึ่งได้แล้ว
ส่วนผสม ซาลาเปาไส้ถั่วดำ (ประมาณ 40 ลูก)
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 กิโลกรัม
• น้ำตาลทราย 250 กรัม
• เนยขาว 100 กรัม
• ยีสต์ 1+1/2 ช้อนชา
• ผงฟู 1 ช้อนชา
• น้ำเปล่า 400 กรัม
• น้ำมันพืช 1 ช้อนชา
• ไส้ถั่วดำกวน 800 กรัม (ดูวิธีทำ ไส้ถั่วดำกวน คลิก)
วิธีทำซาลาเปาไส้ถั่วดำ
1. นำยีสต์ผสมกับน้ำเปล่า คนให้ละลาย
2. นำแป้งใส่อ่างผสม เติมน้ำตาลทราย ผงฟู ส่วนผสมยีสต์ และเนยขาว นวดให้เข้ากันจนเนื้อเนียนและไม่ติดมือ แบ่งแป้งเป็นก้อนละ 40 กรัม ส่วนไส้แบ่งเป็นก้อนละ 20 กรัม
3. แผ่ก้อนแป้งเป็นแผ่นแบน ๆ วางไส้ลงไปแล้วคลึงให้เป็นลูกกลม วางบนกระดาษสี่เหลี่ยม คลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร พักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงหรือจนแป้งฟูขึ้นเป็นสองเท่า
4. นำซาลาเปาไปนึ่งในน้ำเดือดใช้ไฟปานกลาง ประมาณ 15 นาทีหรือจนสุกยกลง นำออกจากที่นึ่งจัดเสิร์ฟ
ความจริงอยากกินทุกเมนูถั่วดำเลยล่ะ แต่คงเป็นไปไม่ได้ ถ้าเลือกได้ก็อยากทำโดรายากิถั่วดำเพราะใจสั่งมา ถ้าหากไส้ถั่วดำเหลือก็จะดัดแปลงทำเป็นไส้ซาลาเปาและไส้ข้าวต้มมัดเพิ่มเติม ขอตัวไปช้อปปิ้งวัตถุดิบก่อนนะคะ บ๊ายบาย