เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำขึ้นทุกวันทำให้เราได้เห็นสิ่งที่น่าทึ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างการกินยารักษาโรคแบบใหม่ ที่ไม่จำเป็นต้องพกซองยาเต็มกระเป๋า เพียงแค่พกยา QR Code แผ่นบาง ๆ แผ่นเดียวก็มั่นใจว่ากินยาครบ เพราะในแผ่น QR Code นั้นเต็มไปด้วยตัวยาที่เราจะต้องกิน กลืนแผ่นเดียวจบ ลดปัญหากินยาไม่ตรงเวลา กินยาผิด หรือกินยาปลอม
โดยเทคโนโลยีล้ำ ๆ ในรูปแบบยา QR Code เป็นงานวิจัยจาก University of Copenhagen ร่วมกับ Åbo Akademi University ประเทศฟินแลนด์ โดยเขาร่วมกันคิดค้นวิธีผลิตยาแบบใหม่ซึ่งใช้แผ่นสารสกัดสีขาวที่สามารถกินได้ รวมทั้งนำเทคโนโลยี Inkjet Printing มาพิมพ์ลาย QR Code โดยใส่ข้อมูลยาแต่ละชนิดลงไปในแผ่นยาสีขาวบาง ๆ
ภาพจาก sciencedaily
อีกทั้งแพทย์ยังสามารถใส่ข้อมูลคนไข้ ข้อควรระวังในการกินยา และข้อมูลสำคัญ ๆ ที่เกี่ยวกับตัวยาในแผ่นยา QR Code ได้อีกด้วย ที่สำคัญแผ่น QR Code นี้สามารถกินเพื่อรักษาโรคได้ไม่ต่างจากยาชนิดเม็ดที่เราคุ้นเคยกันเลยค่ะ
ส่วนหมึกที่พิมพ์ลาย QR Code ลงไปในแผ่นสารสกัดสีขาว นักวิจัยได้ดัดแปลงโดยใช้ตัวยาแต่ละชนิดมาละลายกับกรดแลกติกและเอธานอล จากนั้นจึงใช้หมึกดังกล่าวผลิตแผ่นยาในรูปแบบ QR Code ซึ่งสามารถพิมพ์ยาหลาย ๆ ตัวลงไปในแผ่นยาเดียวกันได้ และ QR Code ที่ถูกพิมพ์ลงไปก็สามารถสแกนข้อมูลได้จริงด้วยสมาร์ทโฟนและแอพพลิเคชั่นสแกน QR Code ทั่วไป สแกนปุ๊บก็รู้เลยว่าแผ่นนี้มียาอะไร ๆ บ้าง ข้อมูลยาแต่ละตัวเป็นยังไง ซึ่งก็จะช่วยลดปัญหาการกินยาผิด กินยาไม่ครบ รวมไปถึงปัญหากินยาปลอมลงได้
ภาพจาก University of Copenhagen
ทั้งนี้นักวิจัยยังเผยข้อดีของยา QR Code นี้ว่า แพทย์สามารถจัดยาแต่ละชนิดให้เหมาะสมกับคนไข้ในแต่ละเคส โดยเฉพาะปัญหาเรื่องโดสยาที่คนไข้มักจะกินเกินขนาด หรือน้อยเกินขนาดได้อีกด้วย และไม่ต้องห่วงนะคะว่าหมึกที่ใช้พิมพ์ QR Code จะลดประสิทธิภาพการทำงานของตัวยาไป เพราะทีมวิจัยได้ทดลองมาแล้วว่าสารที่ผสมเป็นหมึกพิมพ์ไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อตัวยา และแผ่นสารสกัดสีขาวที่ใช้พิมพ์ QR Code ก็มีคุณสมบัติดูดซึมในลำไส้ได้ดี มั่นใจได้ว่าคนไข้จะได้รับยาที่ถูกกับโรคในโดสยาที่เหมาะสมอย่างแน่นอน
อ้อ ! และยา QR Code ยังมีข้อดีที่สามารถพิมพ์สีแผ่นยาได้หลากหลาย สามารถจำแนกความแรงของยาได้ด้วยสีหมึกพิมพ์ ชนิดที่ว่าแค่เห็นสีหมึกในแผ่นยา QR Code ก็รู้ว่ายาตัวนี้แรงระดับไหนเลยล่ะค่ะ
ภาพจาก University of Copenhagen
อย่างไรก็ตาม แผ่นยา QR Code ยังคงอยู่ในขั้นตอนการวิจัยเพิ่มเติมในเรื่องข้อจำกัดต่าง ๆ เช่น ความชื้น อุณหภูมิ และแสงแดดที่อาจส่งผลกระทบกับตัวยา ทำให้ยามีประสิทธิภาพลดลง รวมไปถึงตัว QR Code ที่ควรต้องมีความชัดเจนเพื่อให้สมาร์ทโฟนทุกยี่ห้อ ทุกรุ่นสามารถสแกนข้อมูลยาได้ทันที แม้ตัวยาจะถูกบรรจุอยู่ในกล่องที่มีความหนาก็ตาม
ด้านทางทีมวิจัยก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า หากผลการวิจัยของเขาพร้อมใช้ 100% เต็ม แผ่นยา QR Code นี้จะถูกใช้งานจริงในอุตสาหกรรมการผลิตยา เพื่อช่วยลดปัญหาการกินยาผิด กินยาปลอม หรือกินยาไม่ตรงเวลาได้อย่างเห็นผลจริงในอนาคต และเราก็ขอเป็นกำลังใจให้มียาล้ำ ๆ แบบนี้เกิดขึ้นจริง ใช้งานได้จริงในเร็ว ๆ นี้ด้วยนะคะ
dailygizmo
healthsciences.ku.dk
sciencedaily