เผยวิธีการ เก็บถนอมอาหาร ของสดในตู้เย็น เมื่อต้องกักตุนอาหาร

วันนี้เราก็มีเคล็ดลับดี ๆ สำหรับคนที่ต้องกักตุนอาหาร ของสดไว้ในตู้เย็นเพื่อประกอบอาหาร ให้ของเหล่านั้นอยู่ได้ยาวนาน โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Äris Arrisä ได้ระบุว่า

“I will survive สิ่งใดอยู่ในช่องฟรีส…สิ่งนั้นอยู่ชั่วกัลปาวสาน เริ่มทยอยทำอาหารปรุงสำเร็จ และเก็บอาหารสดตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว เพราะกลัวจะต้องเผชิญกับปัญหาสินค้าปรับขึ้นราคา #ไม่ตระหนกแต่ต้องตระหนัก #ฉันต้องรอด #ไม่แพนิคเนอะ แบ่งปันวิธีเก็บอาหาร ใส่รายละเอียดไว้ใต้รูปนะครัช”

เนื้อสัตว์แบ่งใส่ถุงปริมาณต่อ 1 เสริฟ กด ๆ ให้แบน ๆ เพื่อความเย็นจะได้เข้าถึงทุกอนู และสะดวกต่อการทำละลายด้วย

ขวดน้ำตัดครึ่ง หล่อน้ำไว้ก้นขวดเล็กน้อย เอาผักใส่ลงไปแล้วครอบฝาปิดไว้ ไม่ให้ความเย็นโดนผักโดยตรง ผักจะได้ไม่เหี่ยวเฉา อยู่ได้นานขึ้น

ปลาเค็มชนิดต่าง ๆ ห่อด้วยกระดาษให้มิดชิดแล้วใส่กล่องปิดฝาให้สนิทเพื่อป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ ถ้ามีเปลือกมะกรูดใส่ลงไปในกล่องด้วยก็ยิ่งดี เขียนวันที่กำกับไว้ด้วยก็ดีจะได้เลือกบริโภคของที่มาก่อน แบบระบบ first in first out

อาหารปรุงสำเร็จบางประเภทไม่ต้องใส่ฟรีส ก็แข็งตัวเป็นเจลลี่ได้ ใส่แค่ช่องชิลก็พอ อย่าลืมใส่วันที่การผลิตไว้ด้วย เพื่อระบบfirst in first out

แยกจัดหมวดหมู่อาหาร ติดป้ายเพื่อหยิบได้ง่าย เพราะการเปิดฝา ปิดฝาบ่อย ๆ ก็เสี่ยงแบคทีเรียลงสู่อาหาร

แบ่งเนื้อสัตว์เป็นต่อ 1 เสริฟ กดให้แบน ๆ เพื่อความเย็นกระจายทั่วถึง และไม่กินพื้นที่จัดเก็บ ถ้ามีเครื่องซีลก้อซีล ถ้าไม่มีก็ใช้หนังยางรัด เพื่อไม่ให้น้ำไหลเลอะเทอะ

เนื้อแดดเดียวแบ่งเป็นต่อ 1 เสริฟ ถ้าเนื้อเป็นแบบตากไม่แห้งมากแนะนำต้องแช่ฟรีส แต่ถ้าตากจนแห้งสนิทแช่แค่ช่องชิลด์ก็ได้

หมูหรือเนื้อแดดเดียวที่ขๅยตามท้องตลาดราคาค่อนข้างสูง ถ้าซื้อเนื้อหมูหรือเนื้อวัวมาตากแดดเอง ปรุงรสแบบที่ชอบ ได้ปริมาณมาก และราคาที่ถูกกว่าด้วย

ใบกะเพราลวกแล้วน็อคน้ำแข็งทันที บีบน้ำออก เก็บไว้ใช้ได้เป็นปี

ใบกะเพราลวกแล้วบีบน้ำออก ปั้นไว้เป็นก้อน ๆ ขนาดพอใช้ต่อหนึ่งครั้ง แช่ฟรีสเก็บไว้ได้เป็นปี

ชะอม เด็ดก้านแล้วใส่ถุงปริมาณต่อ1 เสริฟ ปิดถุงให้สนิทและใส่กล่องปิดฝาให้มิดชิดเพื่อไม่ให้มีกลิ่นแรงในตู้เย็น แช่ฟรีสได้เลย นำออกมาใช้ได้กลิ่นและรสที่เหมือนเดิม

ก็เป็นวิธีที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่จำเป็นต้องกักตุนอาหาร เพื่อถนอมอาหารสดให้สามารถนำมาใช้ประกอบอาหารได้เป็นเวลายาวนานนั่นเองค่ะ

แหล่งที่มา: Äris Arrisä

เรียบเรียงโดย baansuann.com