Home »
Uncategories »
วิธีบอกลาหน้าแก่เพื่อผิวหน้าสวย ไร้รอยเหี่ยวรอยย่น ทำง่ายๆด้วย กล้วยสุก
วิธีบอกลาหน้าแก่เพื่อผิวหน้าสวย ไร้รอยเหี่ยวรอยย่น ทำง่ายๆด้วย กล้วยสุก
วิธีบอกลาหน้าแก่เพื่อผิวหน้าสวย ไร้รอยเหี่ยวรอยย่น ทำง่ายๆ ด้วย กล้วยสุก
กล้วยเป็นผลไม้ที่เปี่ยมไปด้วยคุณประโยชน์อย่างสมบูรณ์แบบ
กล้วยสุก ยังมีสารเมือกเพิ่มความชุ่มชื้น ทั้งยังมีวิตามิน เกลือแร่
โปรตีนอีกหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อผิวหนังในการเพิ่มความชุ่มชื่้น
ป้องกันผิวจากอนุมูลอิสระ ลบรอยเหี่ยวย่น รักษาแผล
การเตรียมกล้วย
พยายามล้างกล้วยสุกให้สะอาด ใช้ส่วนที่เป็นเนื้อกล้วยบดหรือปั่น
วิธีการใช้
วิธีที่1
– ใช้กล้วยน้ำว้าสุก 1 ผล น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา สำหรับคนผิวแห้ง หรือน้ำส้ม
หรือน้ำมะนาว 1 ช้อนชา สำหรับคนผิวมัน
ปั่นแล้วผสมให้เข้ากันจนละเอียดพอกให้ทั่วหน้า รวมทั้งลำคอทิ้งไว้ประมาณ
15-20 นาที จะทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้น เรียบลื่น เต่งตึง ลบรอยเหี่ยวย่น
วิธีที่2
– ใช้กล้วยน้ำว้าสุก 1 ผล ผสมน้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา นำมาปั่นผสมให้เข้ากัน
พอกหน้าจนถึงลำคอ ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที
แล้วจึงล้างออกเหมาะกับคนผิวหน้าแห้ง จะทำให้ใบหน้าชุ่มชื้น เต่งตึง
ลบรอยเหี่ยวย่น
วิธีที่3 – ใช้กล้วยน้ำว้าสุกปอกเปลือก บดให้เหลว
แล้วทาให้ทั่วบริเวณผิวหน้าทิ้งไว้สักพักแล้วล้างออก
จะช่วยให้ผิวหน้าสะอาดนุ่ม ชุ่มชื้น
นอกจากนี้ยังมีสูตรลดน้ำหนักด้วยกล้วย แบบสาวญี่ปุ่นมาฝากกันด้วย
1.
เริ่มจากกินกล้วยหอมอย่างเดียวในมื้อเช้า จะกี่ลูกก็ได้ตามต้องการ
เคี้ยวให้ละเอียด หลังจากกินเสร็จแล้วยังหิวอยู่ ให้เว้นระยะเวลา 15-30
นาที จึงรับประทานอย่างอื่น เช่น ข้าว เป็นต้น ถ้าวันไหนเบื่อกล้วย
หรือไม่ชอบกล้วยหอมจริงๆ จะเปลี่ยนเป็นผลไม้ชนิดอื่นก็ได้ เช่น แอ๊ปเปิ้ล
แคนตาลูป หรือแตงโม เป็นต้น แต่ขอให้เป็นผลไม้ชนิดเดียวเท่านั้น
เพื่อแบ่งเบาภาระของกระเพาะของเราไม่ให้เหนื่อยเกินไปที่จะผลิตน้ำย่อยกรดด่างต่างกัน
2. เครื่องดื่มที่ดื่มควบคู่กับกล้วยหอมตอนเช้าคือน้ำเปล่าที่อุณหภูมิห้อง และดื่มบ่อยๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องปริมาณ
3. ส่วนมื้อกลางวัน จะกินอะไรก็ได้ แต่ต้องเคี้ยวให้ละเอียด กินให้พอเหมาะและไม่อึดอัดท้องจนเกินไป
4. พอถึงบ่ายสามก็กินของว่างได้บ้าง โดยเฉพาะของว่างประเภทข้าว ช็อกโกแลต หรือผลไม้ชนิดใดชนิดหนึ่งเท่านั้น
5.
กินอาหารเย็นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเวลาเหมาะสมจะอยู่ที่ 6
โมงเย็นแต่ไม่เกิน 2 ทุ่ม
และพยายามกินให้เร็วขึ้นจากปัจจุบันสักครึ่งชั่วโมง
รวมทั้งไม่รับประทานของหวานหลังอาหารเย็นด้วย ซึ่งการกินข้าวเย็นแต่เร็ววัน
ถึงแม้จะกินเยอะก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด
6. นอนหลับให้ไวขึ้น
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องนอนก่อนเที่ยงคืนให้ได้
พยายามนอนก่อนเที่ยงคืนให้เป็นนิสัย เพื่อฟื้นฟูร่างกายขณะหลับ
กำจัดความเหนื่อยล้าซึ่งจะทำให้ร่างกายอยู่ในสภาพผอมได้ง่าย
7.
ให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายที่ไม่หักโหมจนเกินไป ทำให้พอเหมาะ
เพื่อร่างกายสดชื่น การออกกำลังกายอย่าหักโหมจนรู้สึกทรมาน
การไดเอ็ทจะไม่ได้ผล
8. จดบันทึกไดเอ็ทไดอารี่ให้เป็นนิสัย และเปิดเผยให้คนอื่นอ่านด้วย เป็นบ่อเกิดแห่งกำลังใจอย่างหนึ่ง
จากเภสัชกรคนหนึ่ง
ได้คิดค้นขึ้นมาเพื่อช่วยลดน้ำหนักให้กับสามี ที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน
ผลทดสอบจากสูตรนี้ทำให้ลดน้ำหนักลงได้ถึง 16.6 กิโลกรัม
เธอจึงแนะนำสูตรนี้ลงบน MIXI ชุมชนออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
ซึ่งภายในเวลาสองปีครึ่งที่ผ่านมา พบว่า
สมาชิกชุมชนประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักถึง 300 คนแล้ว หลังจากนั้นไม่นาน
ก็มีการนำมาตีพิมพ์เป็นหนังสืออีกด้วย
แหล่งที่มา : read24hours.com